“อภิชาติ” ไม่คอนเฟิร์มเวลา 15 วัน พอสอบเพิ่มเติมคดี “ศศิธารา” หรือไม่ ยันเสนอโทษปลดออกราชการ พิจารณาอย่างรัดกุมและมีเหตุผลเพียงพอ แจงการสอบสวนมีเรื่องอื่นที่ไม่สามารถบอกได้ที่มากกว่าเรื่องเอกสารหาย
วันนี้ (22 ม.ค.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กรณีเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (เอสพี2) : ไทยเข้มแข็ง 2555 สูญหายและส่อว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน มีมติเอกฉันท์ให้คณะกรรมสอบสวนฯไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จใน 15 วัน ว่า น.ส.ศศิธารา สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อราชการอย่างไร ทั้งที่ คณะกรรมการสอบสวนฯสรุปให้ ปลด น.ส.ศศิธารา ออกจากราชการแล้ว ว่า ขณะนี้ยังไม้ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะสอบสวนเพิ่มเติมเสร็จภายในกำหนด 15 วันได้หรือไม่ แต่เข้าใจว่าคงเป็นการสอบพยานบุคคลเพิ่มอีก 5-6 ปาก ในส่วนนี้สามารถสอบสวนเสร็จตามกำหนดได้ แต่หากจำเป็นต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงการคลัง ไม่แน่ใจว่าจะทันหรือไม่เพราะขั้นตอนการขอเอกสารอาจใช้เวลาเกิน 7 วันแล้ว
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า ผลสรุปของคณะกรรมการสอบสวนฯที่เสนอให้ปลด น.ส.ศศิธารา ออกจากราชการนั้นมีความรัดกุมและมีเหตุผลที่สมควรเพียงพอแล้ว อีกทั้ง ความจริงแล้วในการพิจารณาสอบสวนมีเรื่องมากกว่าคดีเอกสารหายอีกเพราะมีรายละเอียดเยอะมากไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่าเมื่อมีการอภิปรายเพิ่มในที่ประชุมจึงต้องการความชัดเจนให้สอบข้อมูลเพิ่ม อย่างไรก็ตาม การลงโทษให้ปลดออกจากราชการ
ด้าน นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆ กับ นายอภิชาติ เป็นทางการ ทั้งนี้ หากระยะเวลา 15 วันที่ อ.ก.พ.สกศ.ให้เวลาคณะกรรมการสอบสวนฯ ไปสอบสวนเพิ่มเติมไม่เพียงพอ ทางคณะกรรมการสอบสวนฯก็ต้องเสนอขอขยายเวลามา แต่ต้องให้เวลาคณะกรรมการสอบสวนฯไปดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดก่อน
