“จาตุรนต์” จี้คุรุสภาทำหลักเกณฑ์เปิดช่องให้ไม่ได้สายครู แต่เป็นสาขาความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะใน 3 กลุ่ม ทั้งอัตราจ้าง เด็กจบใหม่ และกลุ่มจิตอาสา ได้มาเป็นครูง่ายขึ้น
วันนี้ (27 ม.ค.) สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา (สสอ.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.ว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้รายงานการปรับปรุงข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2556 ในส่วนของการประเมินเพื่อขอต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เดิมที่จะสามารถต่อได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการพัฒนาวิชาชีพครู แต่เกณฑ์ใหม่จะมีการประเมินแบบให้คะแนน ที่เชื่อมโยงกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก ขณะเดียวกันต่อไปผู้จบการศึกษาในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ทุกคน ก็จะต้องมาสอบเพื่อขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ด้วยไม่ใช่ได้โดยอัตโนมัติเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้ขอให้ใช้หลักเกณฑ์เดิมไปก่อน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมก็ได้ขอให้คุรุสภาไปหารือร่วมกับผู้ใช้และผู้ผลิตบัณฑิตเพื่อเติม เพื่อให้หลักเกณฑ์ต่างๆ เกิดความชัดเจนมากขึ้น และตรงตามความต้องการของผู้ใช้
ทั้งนี้ ได้ฝากให้คุรุสภา ไปหาแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนครู โดยเฉพาะการดึงผู้ที่จบการศึกษาในสาขาอื่น ที่เป็นความต้องการของประเทศ อาทิ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นครูได้ง่ายขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนว่าหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เปิดช่องให้คนเหล่านี้มาเป็นครู มีความยุ่งยากซับซ้อน ไม่ยืดหยุ่น และไม่จูงใจ ดังนั้นจึงขอให้องค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัด ไปหารือเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูประบบและพัฒนาครูต่อไป
“โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มครูอัตราจ้างในสถานศึกษา นักศึกษาที่จบใหม่ และกลุ่มที่มีจิตอาสา เช่น ครูอาสาที่ไปสอนในพื้นที่ทุรกันดาร ครูจากโครงการจิตอาสาต่างๆ อาทิ โครงการ Teach For America เป็นต้น ทำอย่างไรถ้าคนเหล่านี้ติดใจอยากเป็นครู ให้เขาเป็นครูได้ง่ายขึ้น” นายจาตุรนต์กล่าว