สธ.สรุปเหตุขว้างระเบิดอนุสาวรีย์ชัยฯ มีผู้บาดเจ็บ 28 ราย อาการสาหัส 5 ราย พบรายที่ รพ.พระมงกุฎฯ ต้องผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ออกบางส่วน ขณะที่ผู้บาดเจ็บรายที่มัฆวานฯ บารมีหลวงปู่ทวดคุ้มครอง กระสุนกระทบเหรียญพอดี ได้รับบาดเจ็บจากความร้อนเล็กน้อย พร้อมประสานส่วนภูมิภาค 18 จังหวัดตั้งวอร์รูมเตรียมพร้อมสถานการณ์
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงพยาบาลสงฆ์ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง (ส่วนหน้า) กระทรวงสาธารณสุข (สธ). กล่าวภายหลังประชุมว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมทีมกู้ชีพฉุกเฉินทั้งภูมิภาคและ กทม. โดยเป็นทีมกู้ชีพฉุกเฉินชั้นสูงจาก รพ.ราชวิถี รพ.รามาธิบดี รพ.นพรัตน์ราชธานี รวม 9 ทีม และทีมกู้ชีพพื้นฐานจากมูลนิธิร่วมกตัญญูจำนวน 30 ทีม โดยจะเกาะติดสถานการณ์ทั้งในพื้นที่เวทีที่มีการชุมนุมและกิจกรรมต่างๆ ที่มวลชนจะเคลื่อนไหว เช่น เคลื่อนไปที่สำนักงบประมาณ ธนาคารออมสิน หรือกลุ่มแพทย์ พยาบาลที่จะเดินไปพื้นที่เวทีอโศก จะมีทีมกู้ชีพติดตามกับมวลชนอย่างใกล้ชิด พร้อมให้การช่วยเหลือกรณีมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้มีความเป็นห่วงทุกพื้นที่ เพราะทุกพื้นที่ถือเป็นจุดเสี่ยงทั้งหมด
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2557 มีเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ ได้แก่ 1. เมื่อเวลา 13.00 น. เหตุขว้างระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 28 ราย นำส่ง รพ.ราชวิถี 13 ราย รับเข้ารักษาในโรงพยาบาล 6 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัสต้องเข้ารับการผ่าตัด 4 ราย รพ.รามาธิบดี 9 ราย รับรักษาในโรงพยาบาล 3 ราย รพ.พระมงกุฏเกล้า 2 ราย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้ง 2 ราย โดย 1 รายถูกยิงขณะวิ่งสวนเข้ามาเพื่อจับคนร้ายเข้าที่บริเวณหน้าท้อง ถูกตับ ไต และลำไส้ใหญ่ แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่บางส่วน ขณะนี้อยู่ในช่วงการเฝ้าดูอาการ และ รพ.จุฬาลงกรณ์ 4 ราย กลับบ้านได้แล้วทั้งหมด และ 2. เมื่อเวลา 22.00 น. มีเหตุการณ์ลอบยิงที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ พบมีชายถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก แต่โชคดีกระสุนถูกเหรียญหลวงปู่ทวดทำให้ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ความร้อนเท่านั้น ทั้งนี้ จำนวนผู้บาดเจ็บสะสมตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2556 มีทั้งสิ้น 267 ราย พักรักษาตัวในโรงพยาบาล 29 ราย และเสียชีวิต 4 ราย โดยรายล่าสุดคือผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง
ด้าน นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผอ.รพ.ราชวิถี กล่าวว่า รพ.ราชวิถีรับผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจำนวน 6 ราย อาการสาหัสต้องได้รับการผ่าตัด 4 ราย โดยสองรายแรกเป็นผู้ชายทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ส่วนสองรายหลังเป็นชาย 1 ราย และหญิงอีก 1 ราย มีบาดแผลที่บริเวณอก ซึ่งทั้งหมดได้รับการผ่าตัดเรียบแล้ว อาการดีขึ้นทุกราย ส่วนอีก 2 รายโดนสะเก็ดระเบิดเข้าที่แขนขา และสะโพกค่อนข้างลึกจึงต้องทำแผลและให้ยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาล ทั้งนี้ แม้จะมีเหตุขว้างระเบิดใกล้กับโรงพยาบาล แต่ รพ.ราชวิถีจะตั้งเต็นท์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นบริเวณหน้าโรงพยาบาลเพื่อดูแลผู้ชุมนุมต่อไป
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.ได้ประสานกับส่วนภูมิภาคให้มีการเตรียมความพร้อมในการเข้าดูแลสถานการณ์และให้การช่วยเหลือถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยให้ทุกโรงพยาบาลในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ 14 จังหวัดภาคใต้ และ 4 จังหวัดที่มีการรวมตัวของมวลชน ได้แก่ จ.พิจิตร ราชบุรี นนทบุรี และบุรีรัมย์ โดยให้ตั้งศูนย์สธ.ส่วนหน้าประจำแต่ละจังหวัดด้วย ทั้งนี้ ในพื้นที่ กทม. ศูนย์ สธ.ส่วนหน้ามีการประเมินว่าโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุและเกิดได้ไม่จำกัดเวลา
ด้าน ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร สรุปยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดและปืน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะนี้ยังพักรักษาตัวใน รพ.รามาธิบดี 3 ราย แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 6 ราย รพ.ราชวิถี 6 ราย แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 6 ราย รพ.พระมงกุฏฯ 2 ราย รพ.พญาไท 2 จำนวน 1 ราย ซึ่งได้ย้ายมารักษาตัวจาก รพ.ราชวิถี และ รพ.จุฬาลงกรณ์ 1 ราย แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 3 ราย โดยขณะนี้ยอดผู้บาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลรวมเป็น 13 ราย และกลับบ้านไปแล้ว 15 ราย