โรคเล็บอักเสบ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นโรคที่ไกลตัว แต่ความจริงแล้วถือว่าเป็นโรคใกล้ตัวเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเล็บอักเสบมันก็ปรากฏชัด เด่นหราอยู่บนนิ้วมือและนิ้วเท้าของเราเอง โดยอาการของโรคนั้น ผิวหนังและเนื้อเยื่อรอบๆ เล็บจะบวม แดง ปวดตุบๆ กดเจ็บ ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียเมื่อกดเนื้อรอบเล็บจะมีหนองสีเหลืองหรือสีเขียวซึมออกมาจากขอบเล็บ
ทั้งนี้ สีของหนองจะขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อแบคทีเรีย โดยข้อมูลจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า ถ้าเกิดจากเชื้อราแคนดิดา หนองจะมีสีขาวขุ่นคล้ายนม มีกลิ่นเหม็น ถ้าเป็นซ้ำบ่อยๆ จะทำให้แผ่นเล็บไม่เรียบ พบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานมือเท้าเปียกน้ำอยู่เสมอ เช่น แม่ครัว คนขายปลา คนขายผลไม้ดอง ช่างเสริมสวย เป็นต้น
สำหรับสาเหตุของโรคเล็บอักเสบ แบ่งเป็น 1.เกิดจากการเจริญของเล็บมีความพิการมาแต่กำเนิด 2.มีความเกี่ยวข้องกับโรคตามระบบต่างๆ เช่น วัณโรค กามโรค โรคของเส้นเลือด เป็นต้น 3.เกิดจากภาวะอาหาร เช่น วิตามิน โปรตีนต่างๆ และต่อมไร้ท่อต่างๆ เช่น ต่อมไทรอยด์ 4.ความแปรผันของอารมณ์ ชอบกัดเล็บ แทะเล็บ 5.เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา ทำให้เล็บเป็นเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เล็บเป็นหนอง6.เกิดจากการกระทบกระแทกต่อเล็บ เช่น ถูกประตูหน้าต่างกระแทก ถูกค้อนทุบแรงๆ 7.การตกแต่งเล็บก็ทำให้เล็บอักเสบได้ เช่น การลอกเนื้อเยื่อจากโคนเล็บออก อาจเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่รากของเล็บได้ หรือการแพ้ยาทาเล็บ และ 8.มาจากสภาวะแวดล้อม เช่น มือเท้าเปียกชื้นอยู่ตลอด
เมื่อเป็นแล้วจะรักษาอย่างไรนั้น สถาบันโรคผิวหนังแนะนำว่า หากเกิดจากความเปียกชื้น ให้ใช้ยาทาครีมไวโอฟอร์มผสมกับไตรแอมซิโนโลน ความเข้มข้นร้อยละ 0.02 (3% vioform in 0.02% Triamcinolone cream) หรือคีนาคอมครีม เอมาคอมบิน ทาวันละสองครั้งติดต่อกันจนกว่าผื่นจะหาย และให้หยอดเล็บด้วยยาน้ำยาหยอดเล็บไธมอล ความเข้มข้น 3%
ถ้ามีหนองสีเขียวหรือเล็บเขียวให้ทำแผลและหยอดด้วยกรดอะซีติกอ่อน 1-3% ถ้าคันมากให้รับประทานยาแก้แพ้ แก้คัน ยาคลอเฟนนิรามีนขนาด 4 มิลลิกรัม วันละ 1-2 ครั้ง กรณีกดขอบเล็บแล้วมีหนองออกมาควรไปพบแพทย์ เพราะต้องรับประทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือยากรักษาเชื้อราตามเชื้อที่เป็นสาเหตุ
หากจะป้องกันการเป็นโรคเล็บอักเสบ สามารถทำได้ 3 ขั้นตอนง่ายๆ คือ
1.รักษามือเท้าให้สะอาดและแห้งเสมอ
2.หลังเสร็จงานล้างด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน
และ 3.ไม่ควรใช้อุปกรณ์ของมีคมแคะซอกเล็บ เพราะจะมำให้ซอกเล็บลึกมากขึ้น ทำให้เก็บสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ดีขึ้น การแคะซอกเล็บเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงสร้างรอบเล็บเสีย และทำให้เล็บกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ยาก
ทั้งนี้ สีของหนองจะขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อแบคทีเรีย โดยข้อมูลจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า ถ้าเกิดจากเชื้อราแคนดิดา หนองจะมีสีขาวขุ่นคล้ายนม มีกลิ่นเหม็น ถ้าเป็นซ้ำบ่อยๆ จะทำให้แผ่นเล็บไม่เรียบ พบได้บ่อยในผู้ที่ทำงานมือเท้าเปียกน้ำอยู่เสมอ เช่น แม่ครัว คนขายปลา คนขายผลไม้ดอง ช่างเสริมสวย เป็นต้น
สำหรับสาเหตุของโรคเล็บอักเสบ แบ่งเป็น 1.เกิดจากการเจริญของเล็บมีความพิการมาแต่กำเนิด 2.มีความเกี่ยวข้องกับโรคตามระบบต่างๆ เช่น วัณโรค กามโรค โรคของเส้นเลือด เป็นต้น 3.เกิดจากภาวะอาหาร เช่น วิตามิน โปรตีนต่างๆ และต่อมไร้ท่อต่างๆ เช่น ต่อมไทรอยด์ 4.ความแปรผันของอารมณ์ ชอบกัดเล็บ แทะเล็บ 5.เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา ทำให้เล็บเป็นเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เล็บเป็นหนอง6.เกิดจากการกระทบกระแทกต่อเล็บ เช่น ถูกประตูหน้าต่างกระแทก ถูกค้อนทุบแรงๆ 7.การตกแต่งเล็บก็ทำให้เล็บอักเสบได้ เช่น การลอกเนื้อเยื่อจากโคนเล็บออก อาจเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่รากของเล็บได้ หรือการแพ้ยาทาเล็บ และ 8.มาจากสภาวะแวดล้อม เช่น มือเท้าเปียกชื้นอยู่ตลอด
เมื่อเป็นแล้วจะรักษาอย่างไรนั้น สถาบันโรคผิวหนังแนะนำว่า หากเกิดจากความเปียกชื้น ให้ใช้ยาทาครีมไวโอฟอร์มผสมกับไตรแอมซิโนโลน ความเข้มข้นร้อยละ 0.02 (3% vioform in 0.02% Triamcinolone cream) หรือคีนาคอมครีม เอมาคอมบิน ทาวันละสองครั้งติดต่อกันจนกว่าผื่นจะหาย และให้หยอดเล็บด้วยยาน้ำยาหยอดเล็บไธมอล ความเข้มข้น 3%
ถ้ามีหนองสีเขียวหรือเล็บเขียวให้ทำแผลและหยอดด้วยกรดอะซีติกอ่อน 1-3% ถ้าคันมากให้รับประทานยาแก้แพ้ แก้คัน ยาคลอเฟนนิรามีนขนาด 4 มิลลิกรัม วันละ 1-2 ครั้ง กรณีกดขอบเล็บแล้วมีหนองออกมาควรไปพบแพทย์ เพราะต้องรับประทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือยากรักษาเชื้อราตามเชื้อที่เป็นสาเหตุ
หากจะป้องกันการเป็นโรคเล็บอักเสบ สามารถทำได้ 3 ขั้นตอนง่ายๆ คือ
1.รักษามือเท้าให้สะอาดและแห้งเสมอ
2.หลังเสร็จงานล้างด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน
และ 3.ไม่ควรใช้อุปกรณ์ของมีคมแคะซอกเล็บ เพราะจะมำให้ซอกเล็บลึกมากขึ้น ทำให้เก็บสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ดีขึ้น การแคะซอกเล็บเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงสร้างรอบเล็บเสีย และทำให้เล็บกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ยาก
