1 อ.1 ทุนรุ่น 4 สอบสองรอบยังเหลือทุนอีกกว่า 1.5 พันทุนจาก 1,856 ทุน เล็งชงบอร์ดบริหารจัดสรรที่เหลือให้เด็กอาชีวะ
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ได้ลงนามประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านข้อเขียนและมีสิทธิสอบสัมภาษณ์โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 รอบที่ 2 โดยมีผู้สอบผ่านเกณฑ์ ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และมีสิทธิสอบสัมภาษณ์ตามเกณฑ์ที่โครงการกำหนด จำนวน 250 คน จากผู้สมัครสอบและมีสิทธิสอบจำนวน 19,764 คน ซึ่งเข้าสอบจริงจำนวน 15,801 คน แบ่งเป็น ทุนประเภทที่ 1 ผู้รับทุนมีผลการเรียนดี ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี มีผู้สอบผ่านจำนวน 17 คนจาก 14อำเภอ/เขต ส่วนทุนประเภทที่ 2 ทุนเรียนดี ไม่จำกัดรายได้ครอบครัว มีผู้สอบผ่านจำนวน 233 คนจาก 130 อำเภอ/เขต
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ที่มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ในครั้งนี้ถือว่ายังต่ำกว่าจำนวนทุน ที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 1,856 ทุน เพราะจากสอบรอบแรก มีผู้ผ่านเกณฑ์ จำนวน 98 คนรวมกับรอบสอง 250 คนเท่ากับขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์ 1 อ. 1 ทุนรุ่นที่ 4 จำนวน 348 คนเพราะฉะนั้น ยังมีทุนที่ว่างอยู่อีก 1,508 ทุนทุน 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 ซึ่งประกาศผลสอบรอบที่ 2 ไปแล้ว และมีผู้สอบผ่านจำนวนน้อย จึงให้ไปดูว่า จะปรับปรุงเกณฑ์การสอบ เงื่อนไขเกี่ยวกับวิชาที่สอบอย่างไรให้เหมาะสม เพราะว่าหลักเกณฑ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีผู้สอบผ่านน้อย ฉะนั้น มีบางประเด็นที่น่าจะทบทวน เช่น การให้นักเรียนสอบทุกวิชา แล้วตัดเกณฑ์ที่คะแนนเฉลี่ยรวมทุกวิชาที่70% นั้น มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะนักเรียนอาจจะไม่ถนัดในบางวิชา และบางวิชาก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้เมื่อเข้าไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เช่น เด็กสายศิลป์ภาษา เขาไม่สนใจเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แต่ก็ต้องมาสอบวิชาวิทยาศาสตร์ที่เขาไม่ถนัดด้วย ทำให้คะแนนรวมถูกฉุดลงมา อันนี้เป็นตัวอย่างประเด็นหนึ่งที่จะต้องไปทบทวนมา รวมทั้งประเด็นว่าจะแบ่งโควตาให้สายอาชีวศึกษาอย่างไร
“หลังจากกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องมีการเปิดสอบรอบใหม่อีกครั้ง เพราะขณะนี้มีผู้สอบผ่านเกณฑ์น้อยมาก จำนวนคน 1800 มีผู้สอบผ่านประมาณ 300 คน เฉลี่ยแล้วไม่ถึง 20% เพราะฉะนั้น จะต้องมาคิดวิธีกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้เด็กที่เรียนอ่อนได้ทุนไป แต่ก็อาจจะเป็นการทบทวนในบางประเด็น อย่างประเด็นที่ว่า การให้เด็กสอบทุกวิชา จะสอดคล้องหรือเปล่า” นายจาตุรนต์ กล่าว
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สำหรับทุนที่ยังเหลือจากการสอบคัดเลือกในรุ่นที่ 4 รอบ 2 นั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายกองทุน 1 อำเภอ 1 ทุนที่มีรมว.ศึกษาธิการ พิจารณาให้นำทุนที่เหลือมาจัดสรรให้กับนักเรียนอาชีวศึกษา ซึ่งขณะนี้ได้ขอข้อมูลความจำเป็น และสาขาที่ขาดแคลนของอาชีวศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)แล้ว ทั้งนี้ตนจะนำปัญหาอุปสรรคของการคัดเลือก 1อำเภอ 1 ทุนไปศึกษาวิเคราะห์ตามนโยบายของนายจารตุรนต์ว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหนบ้าง และจะต้องมีการปรับรื้อเกณฑ์ใหม่ทั้งหมด เพราะขณะนี้ใช้เกณฑ์ผู้สอบผ่านจะต้องได้คะแนนร้อยละ 70 จึงทำให้เด็กที่จะได้รับการคัดเลือกลดลงไปด้วยดังนั้นควรจะใช้เกณฑ์อิงกลุ่มควบคู่ไปด้วย ในขณะที่การเตรียมความพร้อมของผู้รับทุนจะต้องทำอย่างเข้มข้นอาจจะต้องยืดระยะเวลาในการเตรียมความพร้อมของเด็ก อย่างไรก็ตามการพิจารณาปรับเกณฑ์ใหม่ไม่ได้เป็นการลดคุณภาพของผู้เรียนแต่อย่างใด
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ได้ลงนามประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านข้อเขียนและมีสิทธิสอบสัมภาษณ์โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 รอบที่ 2 โดยมีผู้สอบผ่านเกณฑ์ ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และมีสิทธิสอบสัมภาษณ์ตามเกณฑ์ที่โครงการกำหนด จำนวน 250 คน จากผู้สมัครสอบและมีสิทธิสอบจำนวน 19,764 คน ซึ่งเข้าสอบจริงจำนวน 15,801 คน แบ่งเป็น ทุนประเภทที่ 1 ผู้รับทุนมีผลการเรียนดี ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี มีผู้สอบผ่านจำนวน 17 คนจาก 14อำเภอ/เขต ส่วนทุนประเภทที่ 2 ทุนเรียนดี ไม่จำกัดรายได้ครอบครัว มีผู้สอบผ่านจำนวน 233 คนจาก 130 อำเภอ/เขต
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ที่มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ในครั้งนี้ถือว่ายังต่ำกว่าจำนวนทุน ที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 1,856 ทุน เพราะจากสอบรอบแรก มีผู้ผ่านเกณฑ์ จำนวน 98 คนรวมกับรอบสอง 250 คนเท่ากับขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์ 1 อ. 1 ทุนรุ่นที่ 4 จำนวน 348 คนเพราะฉะนั้น ยังมีทุนที่ว่างอยู่อีก 1,508 ทุนทุน 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 ซึ่งประกาศผลสอบรอบที่ 2 ไปแล้ว และมีผู้สอบผ่านจำนวนน้อย จึงให้ไปดูว่า จะปรับปรุงเกณฑ์การสอบ เงื่อนไขเกี่ยวกับวิชาที่สอบอย่างไรให้เหมาะสม เพราะว่าหลักเกณฑ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีผู้สอบผ่านน้อย ฉะนั้น มีบางประเด็นที่น่าจะทบทวน เช่น การให้นักเรียนสอบทุกวิชา แล้วตัดเกณฑ์ที่คะแนนเฉลี่ยรวมทุกวิชาที่70% นั้น มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะนักเรียนอาจจะไม่ถนัดในบางวิชา และบางวิชาก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้เมื่อเข้าไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เช่น เด็กสายศิลป์ภาษา เขาไม่สนใจเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แต่ก็ต้องมาสอบวิชาวิทยาศาสตร์ที่เขาไม่ถนัดด้วย ทำให้คะแนนรวมถูกฉุดลงมา อันนี้เป็นตัวอย่างประเด็นหนึ่งที่จะต้องไปทบทวนมา รวมทั้งประเด็นว่าจะแบ่งโควตาให้สายอาชีวศึกษาอย่างไร
“หลังจากกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องมีการเปิดสอบรอบใหม่อีกครั้ง เพราะขณะนี้มีผู้สอบผ่านเกณฑ์น้อยมาก จำนวนคน 1800 มีผู้สอบผ่านประมาณ 300 คน เฉลี่ยแล้วไม่ถึง 20% เพราะฉะนั้น จะต้องมาคิดวิธีกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้เด็กที่เรียนอ่อนได้ทุนไป แต่ก็อาจจะเป็นการทบทวนในบางประเด็น อย่างประเด็นที่ว่า การให้เด็กสอบทุกวิชา จะสอดคล้องหรือเปล่า” นายจาตุรนต์ กล่าว
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สำหรับทุนที่ยังเหลือจากการสอบคัดเลือกในรุ่นที่ 4 รอบ 2 นั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายกองทุน 1 อำเภอ 1 ทุนที่มีรมว.ศึกษาธิการ พิจารณาให้นำทุนที่เหลือมาจัดสรรให้กับนักเรียนอาชีวศึกษา ซึ่งขณะนี้ได้ขอข้อมูลความจำเป็น และสาขาที่ขาดแคลนของอาชีวศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)แล้ว ทั้งนี้ตนจะนำปัญหาอุปสรรคของการคัดเลือก 1อำเภอ 1 ทุนไปศึกษาวิเคราะห์ตามนโยบายของนายจารตุรนต์ว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหนบ้าง และจะต้องมีการปรับรื้อเกณฑ์ใหม่ทั้งหมด เพราะขณะนี้ใช้เกณฑ์ผู้สอบผ่านจะต้องได้คะแนนร้อยละ 70 จึงทำให้เด็กที่จะได้รับการคัดเลือกลดลงไปด้วยดังนั้นควรจะใช้เกณฑ์อิงกลุ่มควบคู่ไปด้วย ในขณะที่การเตรียมความพร้อมของผู้รับทุนจะต้องทำอย่างเข้มข้นอาจจะต้องยืดระยะเวลาในการเตรียมความพร้อมของเด็ก อย่างไรก็ตามการพิจารณาปรับเกณฑ์ใหม่ไม่ได้เป็นการลดคุณภาพของผู้เรียนแต่อย่างใด
