สอศ.ย้ำ 4 แนวทางหลักเดินหน้าเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพให้ได้ตามเป้า 51:49 ภายในปี 58
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการเรียนสายอาชีพให้แก่ครูแนะแนวในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า นั้นได้มอบนโยบายแก่ครูแนะแนวเพื่อใช้เป็นหลักในการทำงานไปสู่เป้าหมายการเพิ่มจำนวนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาในสัดส่วน 51:49 ภายในปี 2558 ซึ่งจะต้องดำเนินการใน 4 แนวทางหลัก คือ 1.การสร้างสมดุลในการผลิตนักศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการจริงของผู้ประกอบการ นักเรียน ผู้ปกครอง และการผลิตของวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน เนื่องจากที่ผ่านมานั้นการจัดการศึกษาของวิทยาลัยจะเน้นความพร้อมของตนเองเป็นหลักและให้ผู้เรียนเลือกว่าจะเรียนอะไร แต่แนวทางใหม่ซึ่งภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการจะร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคีด้วยนั้น ภาคเอกชนจะบอกความต้องการที่แน่ชัดได้ว่าต้องการแรงงานในสาขาวิชาใดมากที่สุด จำนวนเท่าไร ทั้งยังช่วยวิทยาลัยในการวางแผนการสอนและฝึกงานนักศึกษาด้วยส่งผลให้อาชีวศึกษาสามารถผลิตแรงงานได้สอดคล้องความต้องการแท้จริง
2.ต้องสร้างความร่วมมือในระดับพื้นที่ ระดับจังหวัดดูว่าในพื้นที่นั้นๆ มีความต้องการอาชีพใด จำนวนเท่าใด จากนั้นวิทยาลัยรัฐและเอกชนในพื้นที่ควรต้องร่วมกันทำ School Mapping เพื่อวางแผนผลิตนักศึกษาและจัดการศึกษาได้อย่างมีเอกภาพ 3.จัดการศึกษาโดยยึดหลักของการศึกษาที่ถูกต้อง คือ คำนึงถึงการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาที่ต้องปูพื้นฐานความรู้ ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เริ่มสอนให้เด็กได้สำรวจความต้องการและรู้จักตัวเองว่าต้องการทำอาชีพอะไรโดยต้องปลูกฝังตั้งแต่ชั้น ม.1, 2 สอนให้รู้จักอาชีพต่างๆ เพื่อที่จบ ม.3 เด็กจะได้เลือกเส้นทางได้ว่าจะเรียนต่อสายอาชีพหรือสายสามัญ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเป็นแกนหลักในการดำเนินการ ในส่วน สอศ.ที่ผ่านมาก็ได้จัดการศึกษาอาชีวะแกนมัธยมสอนวิชาชีพแก่เด็กมัธยมด้วย และ 4.ต้องพัฒนาระบบการแนะแนวให้เข้มแข็ง เพราะเป็นหัวใจสำคัญและต้องไม่หวังพึ่งแต่ครูแนะแนวเท่านั้น แต่ต้องให้ความรู้แก่ครูทุกคนเพื่อสามารถให้คำแนะนำให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เด็กได้ เพราะหลักสำคัญคือให้ข้อมูลแท้จริงไม่เน้นการโฆษณาชวนเชื่อ
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการเรียนสายอาชีพให้แก่ครูแนะแนวในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า นั้นได้มอบนโยบายแก่ครูแนะแนวเพื่อใช้เป็นหลักในการทำงานไปสู่เป้าหมายการเพิ่มจำนวนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาในสัดส่วน 51:49 ภายในปี 2558 ซึ่งจะต้องดำเนินการใน 4 แนวทางหลัก คือ 1.การสร้างสมดุลในการผลิตนักศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการจริงของผู้ประกอบการ นักเรียน ผู้ปกครอง และการผลิตของวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน เนื่องจากที่ผ่านมานั้นการจัดการศึกษาของวิทยาลัยจะเน้นความพร้อมของตนเองเป็นหลักและให้ผู้เรียนเลือกว่าจะเรียนอะไร แต่แนวทางใหม่ซึ่งภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการจะร่วมจัดการศึกษาระบบทวิภาคีด้วยนั้น ภาคเอกชนจะบอกความต้องการที่แน่ชัดได้ว่าต้องการแรงงานในสาขาวิชาใดมากที่สุด จำนวนเท่าไร ทั้งยังช่วยวิทยาลัยในการวางแผนการสอนและฝึกงานนักศึกษาด้วยส่งผลให้อาชีวศึกษาสามารถผลิตแรงงานได้สอดคล้องความต้องการแท้จริง
2.ต้องสร้างความร่วมมือในระดับพื้นที่ ระดับจังหวัดดูว่าในพื้นที่นั้นๆ มีความต้องการอาชีพใด จำนวนเท่าใด จากนั้นวิทยาลัยรัฐและเอกชนในพื้นที่ควรต้องร่วมกันทำ School Mapping เพื่อวางแผนผลิตนักศึกษาและจัดการศึกษาได้อย่างมีเอกภาพ 3.จัดการศึกษาโดยยึดหลักของการศึกษาที่ถูกต้อง คือ คำนึงถึงการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาที่ต้องปูพื้นฐานความรู้ ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เริ่มสอนให้เด็กได้สำรวจความต้องการและรู้จักตัวเองว่าต้องการทำอาชีพอะไรโดยต้องปลูกฝังตั้งแต่ชั้น ม.1, 2 สอนให้รู้จักอาชีพต่างๆ เพื่อที่จบ ม.3 เด็กจะได้เลือกเส้นทางได้ว่าจะเรียนต่อสายอาชีพหรือสายสามัญ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเป็นแกนหลักในการดำเนินการ ในส่วน สอศ.ที่ผ่านมาก็ได้จัดการศึกษาอาชีวะแกนมัธยมสอนวิชาชีพแก่เด็กมัธยมด้วย และ 4.ต้องพัฒนาระบบการแนะแนวให้เข้มแข็ง เพราะเป็นหัวใจสำคัญและต้องไม่หวังพึ่งแต่ครูแนะแนวเท่านั้น แต่ต้องให้ความรู้แก่ครูทุกคนเพื่อสามารถให้คำแนะนำให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เด็กได้ เพราะหลักสำคัญคือให้ข้อมูลแท้จริงไม่เน้นการโฆษณาชวนเชื่อ
