กสร.คาดช่วงปลายปีข้อพิพาทระหว่างนายจ้าง-แรงงานมากกว่าปีที่แล้ว ต้นเหตุลูกจ้างยื่นขอโบนัสไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง ชี้อุตสาหกรรมยานยนต์-ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์กลุ่มเสี่ยง สั่งสำนักงานสวัสดิการจังหวัดทุกแห่งส่งเจ้าหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยลดกรณีพิพาท-ได้ข้อยุติพอใจทั้งสองฝ่าย
นายสุวิทย์ สุมาลา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีแรงงานออกมาประท้วงนายจ้าง เนื่องจากได้รับเงินโบนัสไม่เท่ากับจำนวนที่ยื่นข้อเรียกร้องประจำปีว่า กสร.คาดว่าปลายปีนี้จะมีปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง เนื่องจากการยื่นข้อเรียกร้องขอปรับขึ้นเงินเดือนประจำปีและโบนัสมากกว่าปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในกลุ่มสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งไม่เคยมีปัญหามาก่อนโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ ยางรถยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพราะกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้เงินเดือนและจ่ายโบนัสในอัตราที่สูง เนื่องจากที่ผ่านมาสถานประกอบการต่างๆ ล้วนได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม วิกฤตเศรษฐกิจโลกและการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศ ทำให้สถานประกอบการมีกำลังจ่ายเงินโบนัสได้เท่าเดิมหรืออาจต้องลดจำนวนลง ทำให้ลูกจ้างไม่พอใจนายจ้างก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง บางสถานประกอบการลูกจ้างอาจจะหยุดงานประท้วง
รองอธิบดี กสร.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กสร.ได้สั่งการให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในจังหวัดต่างๆ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนายจ้างและลูกจ้างในอุตสาหกรรมที่มีกลุ่มเสี่ยงจะเกิดข้อขัดแย้ง เนื่องจากการเรียกร้องเงินโบนัสและหากเกิดข้อขัดแย้งขึ้นระหว่างนายจ้างและลูกจ้างก็ให้เร่งเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อให้ได้ข้อยุติซึ่งให้เป็นที่พอใจต่อทุกฝ่าย ซึ่งล่าสุดเกิดกรณีกลุ่มสหพันธ์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการได้รวมตัวประท้วงบริษัทในเครืออุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากเคยได้โบนัสปีละ 8 เดือน และยื่นข้อเรียกร้องขอเพิ่มเป็น 10 เดือน แต่บริษัทกลับจ่ายเพียง 1 เดือนเท่านั้น ก็ได้ให้สำนักงานสวัสดิการฯจังหวัดสมุทรปราการเข้าไปช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อยุติข้อพิพาท
“ขอฝากไปถึงนายจ้างเมื่อมีปัญหาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่มีกำลังจ่ายเงินโบนัสเช่นปีที่ผ่านมา เพราะการปรับค่าจ้างที่สูงขึ้นได้ทำให้อัตราเงินโบนัสสูงขึ้นตามไปด้วย เช่น แต่ละปีเคยจ่ายอยู 1 ล้านบาท ก็เพิ่มเป็น 1.3 ล้านบาท ส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายเงินโบนัสได้มากขึ้นหรือต้องลดลงจากเดิม ก็ควรพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกจ้างอย่างเปิดเผยและสุจริตใจ ขณะเดียวกันหากลูกจ้างไม่พอใจและจะใช้สิทธิหยุดงานควรให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าหยุดงานโดยผิดกฎหมายจะกลายเป็นเงื่อนไขให้นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ อย่างไรก็ตาม กสร.จะแก้ปัญหาโดยส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเจรจามีปัญหา เพื่อให้เกิดข้อพิพาทน้อยที่สุดหรือให้ได้ข้อยุติซึ่งเป็นที่พอใจของทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง” นายสุวิทย์ กล่าว
นายสุวิทย์ สุมาลา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีแรงงานออกมาประท้วงนายจ้าง เนื่องจากได้รับเงินโบนัสไม่เท่ากับจำนวนที่ยื่นข้อเรียกร้องประจำปีว่า กสร.คาดว่าปลายปีนี้จะมีปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง เนื่องจากการยื่นข้อเรียกร้องขอปรับขึ้นเงินเดือนประจำปีและโบนัสมากกว่าปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในกลุ่มสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งไม่เคยมีปัญหามาก่อนโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ ยางรถยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพราะกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้เงินเดือนและจ่ายโบนัสในอัตราที่สูง เนื่องจากที่ผ่านมาสถานประกอบการต่างๆ ล้วนได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม วิกฤตเศรษฐกิจโลกและการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศ ทำให้สถานประกอบการมีกำลังจ่ายเงินโบนัสได้เท่าเดิมหรืออาจต้องลดจำนวนลง ทำให้ลูกจ้างไม่พอใจนายจ้างก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง บางสถานประกอบการลูกจ้างอาจจะหยุดงานประท้วง
รองอธิบดี กสร.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กสร.ได้สั่งการให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในจังหวัดต่างๆ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนายจ้างและลูกจ้างในอุตสาหกรรมที่มีกลุ่มเสี่ยงจะเกิดข้อขัดแย้ง เนื่องจากการเรียกร้องเงินโบนัสและหากเกิดข้อขัดแย้งขึ้นระหว่างนายจ้างและลูกจ้างก็ให้เร่งเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อให้ได้ข้อยุติซึ่งให้เป็นที่พอใจต่อทุกฝ่าย ซึ่งล่าสุดเกิดกรณีกลุ่มสหพันธ์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการได้รวมตัวประท้วงบริษัทในเครืออุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากเคยได้โบนัสปีละ 8 เดือน และยื่นข้อเรียกร้องขอเพิ่มเป็น 10 เดือน แต่บริษัทกลับจ่ายเพียง 1 เดือนเท่านั้น ก็ได้ให้สำนักงานสวัสดิการฯจังหวัดสมุทรปราการเข้าไปช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อยุติข้อพิพาท
“ขอฝากไปถึงนายจ้างเมื่อมีปัญหาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่มีกำลังจ่ายเงินโบนัสเช่นปีที่ผ่านมา เพราะการปรับค่าจ้างที่สูงขึ้นได้ทำให้อัตราเงินโบนัสสูงขึ้นตามไปด้วย เช่น แต่ละปีเคยจ่ายอยู 1 ล้านบาท ก็เพิ่มเป็น 1.3 ล้านบาท ส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายเงินโบนัสได้มากขึ้นหรือต้องลดลงจากเดิม ก็ควรพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกจ้างอย่างเปิดเผยและสุจริตใจ ขณะเดียวกันหากลูกจ้างไม่พอใจและจะใช้สิทธิหยุดงานควรให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าหยุดงานโดยผิดกฎหมายจะกลายเป็นเงื่อนไขให้นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ อย่างไรก็ตาม กสร.จะแก้ปัญหาโดยส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเจรจามีปัญหา เพื่อให้เกิดข้อพิพาทน้อยที่สุดหรือให้ได้ข้อยุติซึ่งเป็นที่พอใจของทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง” นายสุวิทย์ กล่าว