กรมการจัดหางาน เตือนคนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์ ให้ตรวจสอบโควตาของบริษัทตัวแทนผู้ประสานงานฯ ก่อนตัดสินใจสมัครไปทำงาน หลังมีกลุ่มคนหางานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร้องทุกข์
วันนี้ (12 พ.ย.) นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีกลุ่มคนหางานในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 99 คน เข้าร้องทุกข์กับ กกจ.เพื่อขอให้ช่วยเหลือตามเงินค่าบริการและค่าใช้จ่ายคืนจากตัวแทนผู้ประสานงานของบริษัท MARLA-MATTI OY ประเทศฟินแลนด์ และคนงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าอีก 1 คน โดยเรียกรับเงินค่าบริการและค่าใช้จ่ายจากคนหางาน ไปคนละ 65,000 บาท แต่กลับไม่จัดส่งไปทำงานและไม่คืนเงินให้ จากการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนของกรมการจัดหางาน พบว่า หนึ่งในตัวแทนผู้ประสานงานดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทจัดหางานให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศแต่อย่างใด ดังนั้น จึงเข้าข่ายจัดหางาน โดยไม่ได้รับอนุญาต กกจ.จึงมอบหมายให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดชัยภูมิเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนงานไทยที่ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงคนหางานได้แล้ว ขณะกลับมาจากการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ ส่วนที่เหลือกำลังอยู่ในระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ดี ก่อนตัดสินใจสมัครไปรับจ้างเก็บผลไม้ป่ากับนายจ้างบริษัทใดๆ ขอให้คนหางาน ตรวจสอบก่อนว่าบริษัทนายจ้างรายนั้นได้รับโควตามาจำนวนกี่คนและบริษัทรับคนงานไปแล้วกี่คน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกกฎหมายได้ที่ สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร.0 2245 1034 หรือ สายด่วน กรมการจัดหางาน โทร.1694
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ตามระเบียบของกรมการจัดหางานกำหนดให้คนหางานที่จะแจ้งการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าต่อกรมฯ จะต้องมีสำเนาเอกสารที่ได้รับหนังสือเชิญให้ไปเก็บผลไม้ป่า จากบริษัทนายจ้างที่รับซื้อผลไม้ป่า ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะต้องได้รับโควตาจากสมาคมนายจ้างในประเทศฟินแลนด์ และคนหางานจะต้องได้รับอนุมัติวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย แต่กรณีนี้นายหน้าฯ ได้ไปรับสมัครคนงานไว้เกินโควตาที่บริษัทฯได้รับ ทำให้สถานทูตไม่ออกวีซ่าให้คนหางานในส่วนที่เกินโควตาจึงก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าว
วันนี้ (12 พ.ย.) นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีกลุ่มคนหางานในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 99 คน เข้าร้องทุกข์กับ กกจ.เพื่อขอให้ช่วยเหลือตามเงินค่าบริการและค่าใช้จ่ายคืนจากตัวแทนผู้ประสานงานของบริษัท MARLA-MATTI OY ประเทศฟินแลนด์ และคนงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าอีก 1 คน โดยเรียกรับเงินค่าบริการและค่าใช้จ่ายจากคนหางาน ไปคนละ 65,000 บาท แต่กลับไม่จัดส่งไปทำงานและไม่คืนเงินให้ จากการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนของกรมการจัดหางาน พบว่า หนึ่งในตัวแทนผู้ประสานงานดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทจัดหางานให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศแต่อย่างใด ดังนั้น จึงเข้าข่ายจัดหางาน โดยไม่ได้รับอนุญาต กกจ.จึงมอบหมายให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดชัยภูมิเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนงานไทยที่ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงคนหางานได้แล้ว ขณะกลับมาจากการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ ส่วนที่เหลือกำลังอยู่ในระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ดี ก่อนตัดสินใจสมัครไปรับจ้างเก็บผลไม้ป่ากับนายจ้างบริษัทใดๆ ขอให้คนหางาน ตรวจสอบก่อนว่าบริษัทนายจ้างรายนั้นได้รับโควตามาจำนวนกี่คนและบริษัทรับคนงานไปแล้วกี่คน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกกฎหมายได้ที่ สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร.0 2245 1034 หรือ สายด่วน กรมการจัดหางาน โทร.1694
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ตามระเบียบของกรมการจัดหางานกำหนดให้คนหางานที่จะแจ้งการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าต่อกรมฯ จะต้องมีสำเนาเอกสารที่ได้รับหนังสือเชิญให้ไปเก็บผลไม้ป่า จากบริษัทนายจ้างที่รับซื้อผลไม้ป่า ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะต้องได้รับโควตาจากสมาคมนายจ้างในประเทศฟินแลนด์ และคนหางานจะต้องได้รับอนุมัติวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย แต่กรณีนี้นายหน้าฯ ได้ไปรับสมัครคนงานไว้เกินโควตาที่บริษัทฯได้รับ ทำให้สถานทูตไม่ออกวีซ่าให้คนหางานในส่วนที่เกินโควตาจึงก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าว