อธิบดี กกจ.เผยคนไทย 240 คนที่ไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนได้ค่าจ้างไม่ครบตามสัญญาจ้างกลับไทยหมดแล้ว แจ้งนายจ้างจ่ายค่าจ้างให้ครบ หากไม่ทำตามฟ้องเอาผิดตามกฎหมาย ขณะที่แรงงานไทยในฟินแลนด์ถูกถอนวีซ่า 50 คน ส่งผู้ตรวจไปแก้ปัญหา เล็งปีหน้าบินหารือรัฐบาลทั้งสองประเทศกำหนดโควตาแรงงานพร้อมออกวีซ่าตามโควตาหวั่นเกิดปัญหาซ้ำ
วันนี้ (3 ต.ค.) นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการแก้ปัญหาแรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าตระกูลเบอร์รี่ที่ประเทศสวีเดนว่า มีแรงงานไทยเดินทางไปเก็บผลเบอร์รีโดยผ่านบริษัทจัดหางานทั้งหมด 6,100 คน โดยได้รับการออกวีซ่าจากรัฐบาลสวีเดนและเสียค่าใช้จ่ายเดินทางทั้งหมด 7.8 หมื่นบาทต่อคน ซึ่งแรงงานไทยได้กู้เงินธนาคารเพื่อจ่ายเงินค่าเดินทางให้แก่บริษัทจัดหางานโดยนายจ้างได้หักเงินค่าจ้างไว้ส่วนหนึ่งเพื่อจ่ายหนี้เงินกู้แก่ธนาคาร ทำให้แรงงานไทย 240 คน ไม่พอใจที่ได้รับเงินค่าจ้างไม่ครบตามสัญญาจ้างจึงออกมาชุมนุมประท้วง ขณะนี้เเรงงานทั้งหมดเดินทางกลับไทยแล้ว ทั้งนี้ กกจ.ได้แจ้งให้นายจ้างจ่ายเงินค่าจ้างให้ครบตามสัญญาจ้างไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้องเอาผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เพราะกฎหมายห้ามไม่ให้หักเงินค่าจ้างจะต้องจ่ายให้ครบตามสัญญาจ้าง
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนประเทศฟินแลนด์มีแรงงานไทยเดินทางไป 3,000 คน โดยเดินทางไปเอง และใช้วีซ่านักท่องเที่ยว เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด 8.8 หมื่นบาทต่อคน และในจำนวนที่เดินทางไปทั้งหมดมี 50 คน ที่ชุมนุมประท้วงเนื่องจากแรงงานไทยไม่พอใจที่นายจ้างให้ไปเก็บผลเบอร์รีชนิดที่ไม่มีความชำนาญในการเก็บและแรงงานส่วนหนึ่งก็ถูกพาไปในพื้นที่ที่ไม่มีผลเบอร์รี ทำให้เดินทางออกไปจากแคมป์โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้รัฐบาลถอนวีซ่าแรงงานไทยทั้ง 50 คนโดยแรงงานไทยกลุ่มนี้เคยมีปัญหาในการเดินทางไปเก็บผลเบอร์รีที่ประเทศสวีเดนในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ นายสิงหเดช ชูอำนาจ ผู้ตรวจราชการของกกจ.เดินทางไปแก้ปัญหาในเรื่องนี้แล้ว
“เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีกในปีหน้า กกจ.จะหารือรัฐบาลสวีเดนและฟินแลนด์ว่ามีความต้องการแรงงานไทยไปเก็บผลเบอร์รีจำนวนเท่าใด และให้ออกวีซ่าตามโควตาที่ต้องการ เพื่อไม่ให้แรงงานไทยเดินทางไปแย่งกันเก็บผลเบอร์รีซึ่งทำให้ราคาตกต่ำ รวมทั้งจะเจรจากับรัฐบาลทั้งสองประเทศนี้ว่าจะรับซื้อผลเบอร์รีเป็นจำนวนเท่าใดเพื่อให้แรงงานไทยมีรายได้แน่นอน ” นายประวิทย์ กล่าว
วันนี้ (3 ต.ค.) นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการแก้ปัญหาแรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าตระกูลเบอร์รี่ที่ประเทศสวีเดนว่า มีแรงงานไทยเดินทางไปเก็บผลเบอร์รีโดยผ่านบริษัทจัดหางานทั้งหมด 6,100 คน โดยได้รับการออกวีซ่าจากรัฐบาลสวีเดนและเสียค่าใช้จ่ายเดินทางทั้งหมด 7.8 หมื่นบาทต่อคน ซึ่งแรงงานไทยได้กู้เงินธนาคารเพื่อจ่ายเงินค่าเดินทางให้แก่บริษัทจัดหางานโดยนายจ้างได้หักเงินค่าจ้างไว้ส่วนหนึ่งเพื่อจ่ายหนี้เงินกู้แก่ธนาคาร ทำให้แรงงานไทย 240 คน ไม่พอใจที่ได้รับเงินค่าจ้างไม่ครบตามสัญญาจ้างจึงออกมาชุมนุมประท้วง ขณะนี้เเรงงานทั้งหมดเดินทางกลับไทยแล้ว ทั้งนี้ กกจ.ได้แจ้งให้นายจ้างจ่ายเงินค่าจ้างให้ครบตามสัญญาจ้างไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้องเอาผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เพราะกฎหมายห้ามไม่ให้หักเงินค่าจ้างจะต้องจ่ายให้ครบตามสัญญาจ้าง
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนประเทศฟินแลนด์มีแรงงานไทยเดินทางไป 3,000 คน โดยเดินทางไปเอง และใช้วีซ่านักท่องเที่ยว เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด 8.8 หมื่นบาทต่อคน และในจำนวนที่เดินทางไปทั้งหมดมี 50 คน ที่ชุมนุมประท้วงเนื่องจากแรงงานไทยไม่พอใจที่นายจ้างให้ไปเก็บผลเบอร์รีชนิดที่ไม่มีความชำนาญในการเก็บและแรงงานส่วนหนึ่งก็ถูกพาไปในพื้นที่ที่ไม่มีผลเบอร์รี ทำให้เดินทางออกไปจากแคมป์โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้รัฐบาลถอนวีซ่าแรงงานไทยทั้ง 50 คนโดยแรงงานไทยกลุ่มนี้เคยมีปัญหาในการเดินทางไปเก็บผลเบอร์รีที่ประเทศสวีเดนในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ นายสิงหเดช ชูอำนาจ ผู้ตรวจราชการของกกจ.เดินทางไปแก้ปัญหาในเรื่องนี้แล้ว
“เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีกในปีหน้า กกจ.จะหารือรัฐบาลสวีเดนและฟินแลนด์ว่ามีความต้องการแรงงานไทยไปเก็บผลเบอร์รีจำนวนเท่าใด และให้ออกวีซ่าตามโควตาที่ต้องการ เพื่อไม่ให้แรงงานไทยเดินทางไปแย่งกันเก็บผลเบอร์รีซึ่งทำให้ราคาตกต่ำ รวมทั้งจะเจรจากับรัฐบาลทั้งสองประเทศนี้ว่าจะรับซื้อผลเบอร์รีเป็นจำนวนเท่าใดเพื่อให้แรงงานไทยมีรายได้แน่นอน ” นายประวิทย์ กล่าว