สธ.ยันโครงการทุนพระราชบิดาฯ ต้องให้ชาวต่างชาติด้วย ระบุโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ชี้สำเร็จการศึกษาจะกลับไปช่วยพัฒนาสาธารณสุขประเทศตน ช่วยลดปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะแนวชายแดน
นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งไทยจำนวน 6 ทุน ในการศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านสาธารณสุขศาสตร์ 1 ปี ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 โดยมีองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนการศึกษาแต่ละปี ว่า การเลือกแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรสาธารณสุขที่จบด้านสาธารณสุขศาสตร์ที่จะไปเรียนต่อนั้น สามารถติดต่อได้ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดโดยตรง เพราะ สธ.จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการส่งตัวแทนใดๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสอย่างแท้จริง ส่วนที่เคยมีเสียงคัดค้านว่า ทำไมต้องให้ทุนชาวต่างชาตินั้น เรื่องนี้อยู่ที่วิธีการคิด ต้องรู้จักมองภาพในอนาคตว่า เมื่อให้ทุนประเทศกำลังพัฒนา อย่างลาว กัมพูชา พม่า ผู้ได้รับทุนจะกลับไปพัฒนาประเทศของตนให้มีสาธารณสุขที่ดี ลดการเกิดโรคระบาด ก็จะช่วยลดปัญหาโรคตามแนวชายแดน
“ทุนการศึกษาดังกล่าว นอกจากเป็นการพัฒนาบุคลากรสาธารณสุขในแต่ละประเทศ เพื่อพัฒนาสาธารณสุขของประเทศตน ป้องกันโรคกระจายสู่ประเทศข้างเคียง โดยเฉพาะโรคตามแนวชายแดน ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคข้ามมายังไทย ลดภาระสาธารณสุขได้ ที่สำคัญโครงการทุนการศึกษานี้ ยังเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระราชบิดาฯ ที่ทรงมีคุณูปการมากมายแก่สาธารณสุข อีกทั้ง สมเด็จพระราชบิดาฯ ยังทรงสำเร็จการศึกษาด้านสาธารณสุขที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อปี 2464 และทรงสำเร็จวิชาแพทย์ในปี 2471” รองปลัด สธ.กล่าว
นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งไทยจำนวน 6 ทุน ในการศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านสาธารณสุขศาสตร์ 1 ปี ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 โดยมีองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนการศึกษาแต่ละปี ว่า การเลือกแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรสาธารณสุขที่จบด้านสาธารณสุขศาสตร์ที่จะไปเรียนต่อนั้น สามารถติดต่อได้ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดโดยตรง เพราะ สธ.จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการส่งตัวแทนใดๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสอย่างแท้จริง ส่วนที่เคยมีเสียงคัดค้านว่า ทำไมต้องให้ทุนชาวต่างชาตินั้น เรื่องนี้อยู่ที่วิธีการคิด ต้องรู้จักมองภาพในอนาคตว่า เมื่อให้ทุนประเทศกำลังพัฒนา อย่างลาว กัมพูชา พม่า ผู้ได้รับทุนจะกลับไปพัฒนาประเทศของตนให้มีสาธารณสุขที่ดี ลดการเกิดโรคระบาด ก็จะช่วยลดปัญหาโรคตามแนวชายแดน
“ทุนการศึกษาดังกล่าว นอกจากเป็นการพัฒนาบุคลากรสาธารณสุขในแต่ละประเทศ เพื่อพัฒนาสาธารณสุขของประเทศตน ป้องกันโรคกระจายสู่ประเทศข้างเคียง โดยเฉพาะโรคตามแนวชายแดน ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคข้ามมายังไทย ลดภาระสาธารณสุขได้ ที่สำคัญโครงการทุนการศึกษานี้ ยังเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระราชบิดาฯ ที่ทรงมีคุณูปการมากมายแก่สาธารณสุข อีกทั้ง สมเด็จพระราชบิดาฯ ยังทรงสำเร็จการศึกษาด้านสาธารณสุขที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อปี 2464 และทรงสำเร็จวิชาแพทย์ในปี 2471” รองปลัด สธ.กล่าว
