สภาอุตสาหกรรม แนะรัฐตั้ง “สำนักพัฒนาการเรียนรู้ก่อนวัยเรียน” เพื่อเตรียมคนก่อนเข้าระบบการศึกษา ให้มีมาตรฐานพร้อมเรียนรู้ ฝากปรับระบบการเรียนการสอนแต่ละระดับ และควรจัดระบบการศึกษาต่อเนื่อง ผลักดันเกิดระบบทวิภาคี 100% ตามที่ประกาศไม่ใช่แบบเดิมๆ ตามความสามารถอาชีวะ
นายพงษ์เดช ศรีวชิรประดิษฐ์ รองประธานกรรมการบริหารสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำรายละเอียดแผนการศึกษาเพื่อพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตด้านการวางแผนผลิตและพัฒนากำลังคนทุกช่วงชีวิต จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า การพัฒนาแรงงานให้มีศักยภาพ ทักษะฝีมือสูงนั้น ระบบการศึกษาต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการพัฒนาคนอย่างมีคุณภาพ โดยต้องปรับระบบการเรียนการสอน ซึ่งถ้าแบ่งเป็นช่วงชั้น ในระดับประถม อยากให้เป็นการเรียนตามความฝัน, ระดับมัธยม ควรเรียนตามความถนัดและนักศึกษา ควรเรียนและปฎิบัติในวิชาชีพที่ถนัด อีกทั้ง รัฐควรจัดให้มีสำนักพัฒนาการเรียนรู้ก่อนวัยเรียน ด้านสาธารณสุข และเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมคนก่อนเข้าระบบการศึกษาให้มีมาตรฐานที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้อย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงการพัฒนาการทางกายและจิตใจเป็นหลัก ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่ทำหน้าที่ทดสอบความถนัดต่างๆ ควรทดสอบเด็กก่อนเข้าสู่มัธยมศึกษา เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าเด็กส่วนใหญ่จะเลือกเรียนตามที่พ่อแม่ให้เรียน โดยไม่รู้ว่าวิชาชีพที่เราเรียน หรือจะไปเรียนนั้นต้องเรียนอะไรจบไปแล้วต้องทำอาชีพอะไร
“การผลักดันการศึกษาเป็นวาระแห่งชาตินั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่อยากให้ระบบการศึกษาของไทย มีความต่อเนื่อง อย่างทำแบบไฟไหม้ฟาง พอเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี, เปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการ แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ แบบนี้ ต่อให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนก็ไม่สามารถทำให้เกิดการปฏิบัติได้ เพราะต้องเริ่มใหม่ตลอดเวลา ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม สิ่งที่อยากฝาก ศธ.คือจะทำอย่างไรให้หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต พัฒนาฝีมือแรงงาน มาร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ ที่อยู่ในแผนเดียวกัน เพราะไม่งั้นสุดท้ายก็ถกกันไปถกกันมา หารือร่วมกันแต่พอทำแผนต่างคนต่างทำก็ไม่ก่อนให้เกิดประโยชน์ และจะทำอย่างไรให้ระบบทวิภาคีที่ ศธ.ประกาศเป็นนโยบาย เป็นระบบทวิภาคี100% ไม่ใช่ระบบทวิภาคีตามความสามารถเดิมของอาชีวะ” นายพงษ์เดช กล่าว
นายพงษ์เดช ศรีวชิรประดิษฐ์ รองประธานกรรมการบริหารสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำรายละเอียดแผนการศึกษาเพื่อพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตด้านการวางแผนผลิตและพัฒนากำลังคนทุกช่วงชีวิต จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า การพัฒนาแรงงานให้มีศักยภาพ ทักษะฝีมือสูงนั้น ระบบการศึกษาต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการพัฒนาคนอย่างมีคุณภาพ โดยต้องปรับระบบการเรียนการสอน ซึ่งถ้าแบ่งเป็นช่วงชั้น ในระดับประถม อยากให้เป็นการเรียนตามความฝัน, ระดับมัธยม ควรเรียนตามความถนัดและนักศึกษา ควรเรียนและปฎิบัติในวิชาชีพที่ถนัด อีกทั้ง รัฐควรจัดให้มีสำนักพัฒนาการเรียนรู้ก่อนวัยเรียน ด้านสาธารณสุข และเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมคนก่อนเข้าระบบการศึกษาให้มีมาตรฐานที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้อย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงการพัฒนาการทางกายและจิตใจเป็นหลัก ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่ทำหน้าที่ทดสอบความถนัดต่างๆ ควรทดสอบเด็กก่อนเข้าสู่มัธยมศึกษา เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าเด็กส่วนใหญ่จะเลือกเรียนตามที่พ่อแม่ให้เรียน โดยไม่รู้ว่าวิชาชีพที่เราเรียน หรือจะไปเรียนนั้นต้องเรียนอะไรจบไปแล้วต้องทำอาชีพอะไร
“การผลักดันการศึกษาเป็นวาระแห่งชาตินั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่อยากให้ระบบการศึกษาของไทย มีความต่อเนื่อง อย่างทำแบบไฟไหม้ฟาง พอเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี, เปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการ แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ แบบนี้ ต่อให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนก็ไม่สามารถทำให้เกิดการปฏิบัติได้ เพราะต้องเริ่มใหม่ตลอดเวลา ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม สิ่งที่อยากฝาก ศธ.คือจะทำอย่างไรให้หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต พัฒนาฝีมือแรงงาน มาร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ ที่อยู่ในแผนเดียวกัน เพราะไม่งั้นสุดท้ายก็ถกกันไปถกกันมา หารือร่วมกันแต่พอทำแผนต่างคนต่างทำก็ไม่ก่อนให้เกิดประโยชน์ และจะทำอย่างไรให้ระบบทวิภาคีที่ ศธ.ประกาศเป็นนโยบาย เป็นระบบทวิภาคี100% ไม่ใช่ระบบทวิภาคีตามความสามารถเดิมของอาชีวะ” นายพงษ์เดช กล่าว
