อย.โต้ผลไม้กระป๋องไทยที่ขายในบรูไน “ไม่มีเชื้อเอดส์” อย่างที่สื่อบรูไนเสนอ เผยจากการตรวจสอบเบื้องต้นอาจเป็นเพียงข่าวลือเพื่อดิสเครดิตสินค้าไทย ยันเชื้อเอดส์ไม่สามารถทนสภาพแวดล้อมนอกร่างกายคนได้ ชี้กระบวนการผลิตอาหารกระป๋องผ่านความร้อนสูง เชื้อที่มากับอาหารตายเกลี้ยงไม่เหลือแน่นอน ย้ำเชื้อเอดส์ติดได้แค่ 3 ทางเท่านั้น
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีสื่อประเทศบรูไนเสนอข่าวผลไม้กระป๋องของไทย ที่ขายในบรูไนปนเปื้อนเชื้อเอชไอวี ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทยออกมายืนยันแล้วว่าปลอดเชื้อ เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า การเสนอข่าวดังกล่าวไม่มีหลักฐานชัดเจนที่ยืนยันถึงการพบเชื้อเอชไอวีในผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องของไทย ซึ่งขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบันดาห์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และหน่วยงานด้านการค้าที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ และอาจเป็นเพียงข่าวลือ เพื่อลดความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการไทย และผลิตภัณฑ์ผลไม้กระป๋องของประเทศไทย
นพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า เชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถอาศัย หรือทำให้เกิดโรคในคนเท่านั้น เมื่อออกนอกร่างกายคนแล้วจะไม่สามารถทนสภาพแวดล้อมภายนอกได้ อาจมีชีวิตได้นานเป็นชั่วโมง หรือเป็นวันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิความร้อน ความเย็น สภาวะกรด-ด่าง ความชื้น ซึ่งการแปรรูปอาหารด้วยการบรรจุกระป๋องนั้น นอกจากการผลิตจะมีระบบมาตรฐาน GMP และ HACCP แล้ว กรรมวิธีการผลิตที่ใช้ความร้อนสูง ยังมีส่วนสำคัญที่ทำลายจุลินทรีย์ก่อโรค รวมทั้งไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารด้วย ซึ่งจากกรรมวิธีการแปรรูปด้วยการบรรจุกระป๋องนี้ จึงไม่สามารถที่จะพบการปนเปื้อนเชื้อเอชไอวีได้ ซึ่งเชื้อนี้สามารถติดต่อกันได้เพียง 3 ทางเท่านั้น คือ การได้รับเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และการติดต่อจากแม่สู่ลูก
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีสื่อประเทศบรูไนเสนอข่าวผลไม้กระป๋องของไทย ที่ขายในบรูไนปนเปื้อนเชื้อเอชไอวี ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทยออกมายืนยันแล้วว่าปลอดเชื้อ เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า การเสนอข่าวดังกล่าวไม่มีหลักฐานชัดเจนที่ยืนยันถึงการพบเชื้อเอชไอวีในผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องของไทย ซึ่งขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบันดาห์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และหน่วยงานด้านการค้าที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ และอาจเป็นเพียงข่าวลือ เพื่อลดความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการไทย และผลิตภัณฑ์ผลไม้กระป๋องของประเทศไทย
นพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า เชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถอาศัย หรือทำให้เกิดโรคในคนเท่านั้น เมื่อออกนอกร่างกายคนแล้วจะไม่สามารถทนสภาพแวดล้อมภายนอกได้ อาจมีชีวิตได้นานเป็นชั่วโมง หรือเป็นวันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิความร้อน ความเย็น สภาวะกรด-ด่าง ความชื้น ซึ่งการแปรรูปอาหารด้วยการบรรจุกระป๋องนั้น นอกจากการผลิตจะมีระบบมาตรฐาน GMP และ HACCP แล้ว กรรมวิธีการผลิตที่ใช้ความร้อนสูง ยังมีส่วนสำคัญที่ทำลายจุลินทรีย์ก่อโรค รวมทั้งไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารด้วย ซึ่งจากกรรมวิธีการแปรรูปด้วยการบรรจุกระป๋องนี้ จึงไม่สามารถที่จะพบการปนเปื้อนเชื้อเอชไอวีได้ ซึ่งเชื้อนี้สามารถติดต่อกันได้เพียง 3 ทางเท่านั้น คือ การได้รับเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และการติดต่อจากแม่สู่ลูก