เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) บริษัทจัดอันดับชื่อดัง ซึ่งมีฐานในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ประกาศปรับลดความน่าเชื่อถือของ “โนเกีย” ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ชื่อดังจากฟินแลนด์ ชี้มีความเสี่ยงสูงที่จะประสบปัญหาด้าน “สภาพคล่องทางการเงิน”
คำแถลงของเอสแอนด์พี ที่มีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่า โนเกีย ผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก รองจากค่ายซัมซุงจากเกาหลีใต้ มีแนวโน้มประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรงหลังจากที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากการทำข้อตกลงเพื่อใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลของโนเกีย เข้าซื้อหุ้นจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ของพันธมิตรอย่าง “ซีเมนส์” ที่ถือครองไว้ในบริษัท “โนเกีย ซีเมนส์ เน็ตเวิร์ก”
เอสแอนด์พีระบุว่า สภาพคล่องทางการเงินที่ย่ำแย่เลวร้ายอยู่แล้วของโนเกีย จะยิ่งหนักข้อขึ้นจากผลของข้อตกลงดังกล่าว เป็นผลให้ต้องมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโนเกียลงอีก 1 ขั้นจากระดับ “BB-” ลงสู่ระดับ “B+”
คำแถลงของเอสแอนด์พียังระบุว่า ตัวเลขเงินสดสุทธิของโนเกียอาจลดต่ำลงจนเหลือเพียงแค่ 1,300 ล้านยูโร (ราว 52,320 ล้านบาท) เท่านั้นภายในสิ้นปี 2013 นี้
ทั้งนี้ โนเกียซึ่งเคยครองตำแหน่งผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของโลกมายาวนาน และมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายในมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก มีอันต้องเผชิญกับภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ของโนเกีย ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าตระกูล “ไอโฟน” ของค่ายแอปเปิล รวมถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้ระบบปฏิบัติการ “แอนดรอยด์” ของค่ายกูเกิลได้ ทำให้ยอดขายและรายได้ของโนเกียลดฮวบลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในปี 2012 ที่ผ่านมา โนเกียมีผลประกอบการขาดทุนสูงถึง 2,303 ล้านยูโร (ราว 92,913 ล้านบาท)