โฆษกเพื่อไทย ป้องรัฐชงประธานสภาแถลงนโยบายแล้ว ซัดอดีต ปธ.ศาล รธน.จ้อมีนัยยะการเมือง สวนประชาธิปัตย์ตักน้ำใส่กะโหลกปล่อยประชุมร่วมยืดยาว ไล่พวกไม่เข้าสภาออกไปทำอย่างอื่น แต่ป้องนายกฯ ไม่ได้หนี แค่เจรจาการค้าต่างชาติ อ้างจริงใจแก้ม็อบสวนยาง ยกโพลอวยคะแนนเสียงเลือกตั้งอันดับ 1 แนะไปคิดนโยบายแค่กันดีกว่า
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาระบุรัฐบาลทำผิดเรื่องไม่แถลงผลงานต่อรัฐสภาว่า โดยจากการสอบถามวิปรัฐบาล รัฐบาลได้ส่งรายละเอียดไปที่ประธานรัฐสภาแล้ว ซึ่งรัฐบาลทำตามขั้นตอนแล้ว หากย้อนไปสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้แถลงผลงานในระยะเวลาที่กำหนด จึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่าการที่อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญออกมาระบุเช่นนี้เหมือนมีนัยยะทางการเมือง และที่สำคัญฝ่ายค้านรับลูกนำเรื่องนี้มาขยายผลทันที โดยตนขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะแถลงผลงาน โดยไม่มีวาระซ่อนเร้นปกปิดแต่อย่างใด
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาการประชุมรัฐสภาโดยใช้เวลาทั้งสัปดาห์ เปรียบเสมือนสภาทาสนั้นว่า ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการประชุมเข้าสู่วันที่ 10 แล้ว และเหตุผลที่ต้องประชุมต่อเนื่อง อยากให้ฝ่ายค้าน และกลุ่ม 40 ส.ว.ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาว่าใครเป็นฝ่ายเตะถ่วงและตีรวนกันแน่ และการอภิปรายในวาระ 2 ฝ่ายค้านก็ยังกลับไปอภิปรายในวาระ 1 จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นความพยายามดึงเกม แล้วมากล่าวหาฝั่งรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ส.ส.และ ส.ว.ควรเข้าประชุมตามกำหนดเวลา เพราะประชาชนเสียภาษีให้ทำหน้าที่ ถ้าฝ่ายค้าน และ ส.ว.บางท่านขี้เกียจสันหลังยาว ไม่เข้าประชุม ก็ออกไปทำอย่างอื่นดีกว่า ไม่ใช่กล่าวหานายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปต่างประเทศว่าหนีการประชุม ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเพื่อดูแลเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งในสมัยนายอภิสิทธิ์ ก็เคยไป แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ พยายามลดความน่าเชื่อถือของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีไม่สนใจปัญหาปากท้องประชาชน แต่ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมีความจริงใจแก้ปัญหา จากการส่งตัวแทนไปเจรจาปัญหากับผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ซึ่งการที่ฝ่ายค้านกล่าวหานายกรัฐมนตรีเหมือนเป็นการเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ทั้งที่เอแบคโพลล์ระบุผลสำรวจว่าพรรคเพื่อไทยยังได้คะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 จึงขอให้ฝ่ายค้านหยุดกล่าวหารัฐบาล หยุดให้โฆษกกล่าวหาอย่างไม่สร้างสรรค์ และหันไปปฏิรูปพรรคและการทำงานในสภาดีกว่า รวมถึงไปคิดนโยบายแข่งขันกันรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะดีกว่า