xs
xsm
sm
md
lg

ดีเดย์ 21 ต.ค.นี้ ห้ามจอดบนถนน 10 สาย ฝ่าฝืนเตรียมเงินค่ายกรถ-ค่าปรับรอจ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดีเดย์ 21 ต.ค.นี้ กทม.ลั่นห้ามจอดรถบนนถนน 10 สายที่รถติดมากสุดในกรุง หวังแก้ปัญหาการจราจร โดย กทม.ร่วมมือกับ บช.น.ชี้หากฝ่าฝืนจะยกรถออก โดยต้องเสียค่ายกรถ 500 บาท และค่าปรับ 500 บาทและหากไม่มารับรถทันทีต้องเสียค่าดูแลวันละ 200 บาทด้วย เตรียมประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ 16-20 ต.ค.นี้

วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานจราจร พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร.นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้อำนวยการเขตที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนาและแก้ไขปัญหาระบบการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ในถนน 10 สาย ที่มีปัญหารถติดมากในที่สุดในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ 1.ถนนลาดพร้าว 2.ถนนพระราม 4 3.ถนนสุขุมวิท 4.ถนนรัชดาภิเษก 5.ถนนรามคำแหง 6.ถนนพหลโยธิน-ถนนเกษตรนวมินทร์ 7.ถนนสาทร 8.ถนนราชดำเนิน 9.ถนนเพชรบุรี และ 10.ถนนวิภาวดี-รังสิต
รถติด (ภาพ www.innnews.co.th)
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า นโยบายการแก้ปัญหาจราจรในถนน 10 สาย อยู่ในพื้นที่ 19 เขต และในความรับผิดชอบสถานีตำรวจนครบาลทั้ง 32 แห่ง โดยได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าดูแลถนนทั้ง 10 สาย เพื่อห้ามไม่ให้มีการจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่สร้างปัญหารถติด โดยตั้งแต่วันที่ 16-20 ตุลาคม จะเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ ซึ่งหากพบการจอดรถผิดกฎหมายจะดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน และตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม เป็นต้นไป เป็นวันดีเดย์ ซึ่งจะใช้วิธียกรถออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ตามความผิด พ.ร.บ.จราจร มาตรา 57 และ 59 ห้ามจอดในที่ห้าม ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งเสียค่าเคลื่อนย้าย 500 บาท และค่าดูแลวันละ 200 บาท จากนั้นจะมีการประเมินทุกเดือน โดยจะมีพิธีเปิดโครงการวันที่ 18 ต.ค.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งจะมีหลายหน่วยงานเข้าร่วม พร้อมมีรถยกมาสาธิตวิธีการยกรถที่จะไม่สร้างความเสียหายแก่รถ และวันที่ 21 ตุลาคม จะมีการปล่อยขบวนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจยังพื้นที่ต่างๆ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เพื่อแก้ปัญหาจราจรให้ครอบคลุมทุกด้าน จะต้องมีการดำเนินการเชื่อมโยงสัญญาณไฟจราจร ปรับปรุงวิศวกรรมจราจร ติดตั้งเครื่องนับจำนวนรถบริเวณทางแยก และการออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบางส่วนต้องขอการสนับสนุนจาก กทม.อีกทั้งต้องมีการร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการรักษากฎหมาย ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยในการในการแบ่งเบาการทำงานของทางการได้

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนมอบหมายให้ผู้อำนวยการเขตและสำนักเทศกิจ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงโครงการดังกล่าว และขอให้เขตช่วยประสานสำนักการจราจรและขนส่ง ดำเนินการตีเส้นจราจรและป้ายจราจรต่างๆ ให้ชัดเจน และทำการปรับปรุงวิศวกรรมจราจรที่อยู่ในความรับผิดชอบ ซึ่งตนมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยลบภาพที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่การจราจรตัดขัดมากที่สุดในโลกได้อย่างแน่นอน ส่วนในกรณีที่จะมีการแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจเพื่อเข้ามาช่วยเหลือตำรวจจราจรในการปฏิบัติงานนั้น ตนเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่เทศกิจ ในการดูแลจัดระเบียบทางเท้าอย่างแน่นอน เนื่องจากเรื่องทางเท้าและท้องถนนเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กัน จึงต้องช่วยกันทำควบคู่กันไป
 


กำลังโหลดความคิดเห็น