กวพ.อ.ส่งหนังสือถึง สพฐ.แจ้งผลพิจารณาไม่รับทราบประกาศยกเลิกแท็บเล็ตโซน 3 ชี้ไม่เป็นตามระเบียบสำนักนายกฯ กำหนดต้องประกาศยกเลิกอี-ออกชัน ภายใน 3 วัน แต่ สพฐ.ประกาศเมื่อผ่านไป 3 เดือน และเป็นการใช้ดุลยพินิจของหน่วยงาน พร้อมแนบข้อสังเกตมาในเรื่องของคุณภาพและราคาว่าไม่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจนว่าสร้างความเสียหายกับราชการกรณีนี้จึงยกเลิกไม่ได้ ขณะที “อภิชาติ” เตรียมนำผลรายงานต่อ รมว.ศึกษาธิการ หาแนวทางดำเนินการต่อ
วันนี้ (14 ต.ค.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ยื่นอุทธรณ์กับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ของกรมบัญชีกลาง เพื่อขอให้พิจารณากรณีที่คณะกรรมการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศยกเลิกผลการประมูลอี-ออกชันแท็บเล็ตนักเรียนโซน 3 (ภาคกลางและภาคใต้) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน เพราะมีข้อสังเกตจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินว่าการอี-ออกชัน ในโซน 3 มีผู้เข้าร่วมแข่งขันน้อย ส่อเจตนาว่าอาจจะมีการสมยอม หรือฮั่วประมูล เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2556 นั้น ขณะนี้ กวพ.อ.ได้ส่งหนังสือผลการพิจารณามาที่ สพฐ.ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2556 โดย กวพ.อ.ระบุว่าไม่สามารถรับทราบการประกาศยกเลิกการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างแท็บเล็ตในโซนที่ 3 ของ สพฐ.ได้ เนื่องจากการประกาศยกเลิกดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 แต่เป็นการยกเลิกโดยใช้ดุลยพินิจของหน่วยงานเอง
ทั้งนี้ กวพ.อ.ให้ความเห็นว่า เนื่องจากตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยวิธีการทางวัสดุฯ ได้กำหนดว่า คณะกรรมการจัดซื้อจะต้องจัดประชุมและพิจารณาผลการประกวดราคาทันทีที่กระบวนการเสนอราคาสิ้นสุดลง เพื่อมีมติว่าสมควรรับการเสนอราคาของผู้เสนอราคารายใด และมตินั้นจะต้องแสดงเหตุผลประกอบการพิจารณาและรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุพิจารณาในวันทำการถัดไป หากหัวหน้าหน่วยงานเห็นชอบกับมติของคณะกรรมการ ให้คณะกรรมการแจ้งผลการพิจารณา ให้ผู้มีสิทธิเสนอราคาทุกรายทราบ แต่หากหัวหน้าหน่วยงานไม่เห็นชอบกับมติคณะกรรมการให้แจ้งเหตุผล ให้คณะกรรมการทราบภายใน 3 วัน และหากหัวหน้าหน่วยงานยังคงไม่เห็นชอบตามมติคณะกรรมการให้หัวหน้าหน่วยงานสั่งยกเลิกการประกวดราคา ภายใน 3 วัน พร้อมแจ้งให้ผู้มีสิทธิเสนอราคาทุกราย และ กวพ.อ.ทราบภายใน 3 วัน นับแต่วันที่พิจารณายกเลิกและให้ประกาศทางเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลางด้วยอย่างน้อย 3 วัน
“แต่การประกาศยกเลิกโซน 3 ของ สพฐ.นั้น มาประกาศหลังจากอี-ออกชัน ผ่านไปแล้ว 3 เดือน เพราะฉะนั้น การประกาศยกเลิกครั้งนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกว่าด้วยวิธีการทางวัสดุฯ แต่ถือเป็นการยกเลิกโดยใช้ดุลยพินิจของหน่วยงานเองกรณีนี้ กวพ.อ.จึงมิอาจรับทราบได้ อย่างไรก็ดี กวพ.อ.มีข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วยว่า การประกวดราคาในโซน 3 นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้เสนอราคาต่ำสุดได้เสนอราคาไม่เกินมาตรฐาน หรือราคากลาง และไม่เกินวงเงินงบประมาณโดยหน่วยงานไม่มีข้อมูลว่า ผู้เสนอราคามีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง หรือยื่นเงื่อนไขไม่ถูกต้อง หรือมีหลักฐานที่ชัดเจนปราศจากข้อโต้แย้งด้านคุณภาพ คุณสมบัติทางเทคนิค หรือเหตุอื่นใดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อราชการ กรณีนี้จึงไม่อาจยกเลิกการประราคาดังกล่าวได้ เพราะเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยระเบียบแล้ว ทั้งนี้ ตนจะนำมติของ กวพ.อ.หารือกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อหาแนวทางดำเนินการต่อไป ” นายอภิชาติ กล่าว
วันนี้ (14 ต.ค.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ยื่นอุทธรณ์กับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ของกรมบัญชีกลาง เพื่อขอให้พิจารณากรณีที่คณะกรรมการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศยกเลิกผลการประมูลอี-ออกชันแท็บเล็ตนักเรียนโซน 3 (ภาคกลางและภาคใต้) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน เพราะมีข้อสังเกตจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินว่าการอี-ออกชัน ในโซน 3 มีผู้เข้าร่วมแข่งขันน้อย ส่อเจตนาว่าอาจจะมีการสมยอม หรือฮั่วประมูล เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2556 นั้น ขณะนี้ กวพ.อ.ได้ส่งหนังสือผลการพิจารณามาที่ สพฐ.ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2556 โดย กวพ.อ.ระบุว่าไม่สามารถรับทราบการประกาศยกเลิกการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างแท็บเล็ตในโซนที่ 3 ของ สพฐ.ได้ เนื่องจากการประกาศยกเลิกดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 แต่เป็นการยกเลิกโดยใช้ดุลยพินิจของหน่วยงานเอง
ทั้งนี้ กวพ.อ.ให้ความเห็นว่า เนื่องจากตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยวิธีการทางวัสดุฯ ได้กำหนดว่า คณะกรรมการจัดซื้อจะต้องจัดประชุมและพิจารณาผลการประกวดราคาทันทีที่กระบวนการเสนอราคาสิ้นสุดลง เพื่อมีมติว่าสมควรรับการเสนอราคาของผู้เสนอราคารายใด และมตินั้นจะต้องแสดงเหตุผลประกอบการพิจารณาและรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุพิจารณาในวันทำการถัดไป หากหัวหน้าหน่วยงานเห็นชอบกับมติของคณะกรรมการ ให้คณะกรรมการแจ้งผลการพิจารณา ให้ผู้มีสิทธิเสนอราคาทุกรายทราบ แต่หากหัวหน้าหน่วยงานไม่เห็นชอบกับมติคณะกรรมการให้แจ้งเหตุผล ให้คณะกรรมการทราบภายใน 3 วัน และหากหัวหน้าหน่วยงานยังคงไม่เห็นชอบตามมติคณะกรรมการให้หัวหน้าหน่วยงานสั่งยกเลิกการประกวดราคา ภายใน 3 วัน พร้อมแจ้งให้ผู้มีสิทธิเสนอราคาทุกราย และ กวพ.อ.ทราบภายใน 3 วัน นับแต่วันที่พิจารณายกเลิกและให้ประกาศทางเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลางด้วยอย่างน้อย 3 วัน
“แต่การประกาศยกเลิกโซน 3 ของ สพฐ.นั้น มาประกาศหลังจากอี-ออกชัน ผ่านไปแล้ว 3 เดือน เพราะฉะนั้น การประกาศยกเลิกครั้งนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกว่าด้วยวิธีการทางวัสดุฯ แต่ถือเป็นการยกเลิกโดยใช้ดุลยพินิจของหน่วยงานเองกรณีนี้ กวพ.อ.จึงมิอาจรับทราบได้ อย่างไรก็ดี กวพ.อ.มีข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วยว่า การประกวดราคาในโซน 3 นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้เสนอราคาต่ำสุดได้เสนอราคาไม่เกินมาตรฐาน หรือราคากลาง และไม่เกินวงเงินงบประมาณโดยหน่วยงานไม่มีข้อมูลว่า ผู้เสนอราคามีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง หรือยื่นเงื่อนไขไม่ถูกต้อง หรือมีหลักฐานที่ชัดเจนปราศจากข้อโต้แย้งด้านคุณภาพ คุณสมบัติทางเทคนิค หรือเหตุอื่นใดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อราชการ กรณีนี้จึงไม่อาจยกเลิกการประราคาดังกล่าวได้ เพราะเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยระเบียบแล้ว ทั้งนี้ ตนจะนำมติของ กวพ.อ.หารือกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อหาแนวทางดำเนินการต่อไป ” นายอภิชาติ กล่าว