ไฟเขียวเซ็นสัญญาซื้อแท็บเล็ต โซน 1, 2 และ 4 คาดภายในวันที่ 18 ก.ย.นี้ “จาตุรนต์” ชี้มติ คกก.ประกวดราคา สพฐ.ยืนตามมติบอร์ดบริหารแท็บเล็ตให้ยกเลิกผลอี-ออกชันโซน 3 ชั้น ม.1 ของ บ.สุพรีมฯ ระบุหลังประกาศยกเลิก บ.สุพรีมฯ สามารถยื่นอุทธรณ์ภายใน 3 วัน หรือหากฟ้องศาลปกครอง และศาลมีคำสั่งใดคุ้มครองชั่วคราวก็มีผลให้เด็กได้แท็บเล็ตช้าต่อไป แต่หากไม่มีก็เดินหน้าไปตามขั้นตอน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดซื้อแท็บเล็ตนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มัธยมศึกษาปีที่ 1 และครู จำนวนกว่า 1.6 ล้านเครื่อง ประจำปีการศึกษา 2556 ในโครงการคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ว่า ตนได้ลงนามอนุมัติการจัดซื้อแท็บเล็ตโซน 1 (ภาคกลางและภาคใต้) ของนักเรียนชั้น ป.1 จำนวน 431,105 เครื่อง โซน 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ชั้น ป.1 จำนวน 373,637 เครื่อง และโซน 4 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของนักเรียนชั้น ม.1 และครู จำนวน 402,889 เครื่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เชิญ 8 หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในกำกับ เช่น กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น มาลงนามจัดซื้อกับบริษัทที่ชนะประมูล ได้แก่ บริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ที่ชนะประมูลโซน 1, 2 และบริษัท จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) ที่ชนะประมูลโซน 4 ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถลงนามจัดซื้อได้ช่วงกลางเดือนกันยายน 2556 นี้ โดยตามสัญญากำหนดว่าเมื่อลงนามจัดซื้อแล้ว บริษัทที่ชนะการประมูลจะต้องทยอยจัดส่งแท็บเล็ตให้ถึงปลายทางภายใน 90 วัน ซึ่งคาดว่าประมาณกลางเดือนธันวาคม 2556 นักเรียนบางส่วนจะได้รับการจัดสรรแท็บเล็ต
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดซื้อแท็บเล็ตโซน 3 (ภาคกลางและภาคใต้) ของนักเรียนชั้น ม.1 และครู จำนวน 426,683 เครื่อง ที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา ต่อ 1 นักเรียน มีมติให้ยกเลิกผลการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ซึ่งบริษัท สุพรีม ดิสทีบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ชนะนั้น เพราะมีข้อสังเกตจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตั้งข้อสังเกตถึงราคาที่สูงและอาจมีการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการประกวดราคาของ สพฐ.ได้ให้ บ.สุพรีมฯ ทำข้อมูลชี้แจงเข้ามา ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วก็ยังยืนยันมติเดิม คือ ยกเลิกผลการอี-ออกชันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภายหลังประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัท สุพรีมฯ สามารถยื่นขออุทธรณ์กับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเลคทรอนิกส์ (กวพอ.) ภายใน 3 วัน แต่หากบริษัท สุพรีมฯ เลือกที่จะฟ้องศาลปกครองด้วย และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็อาจทำให้การจัดซื้อแท็บเล็ตในโซน 3 ดังกล่าวยืดเยื้อออกไป หรือหากไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็เดินหน้าจัดซื้อในโซนนี้ต่อไป
ต่อข้อถามว่า บริษัท สุพรีมฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าหากผลการประมูลโซน 3 ครั้งใหม่ยังมีราคาที่สูงกว่าโซน 4 ทางคณะกรรมการบริหารฯจะมีการพิจารณายกเลิกหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า คงต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบทั้งราคา และการแข่งขัน ซึ่งการประมูลในโซน 3 ครั้งที่ผ่านมามีการประมูลเพียงสองบริษัท และทำการเคาะราคาแค่สองครั้ง แต่ราคาการประมูลที่ได้ยังมีราคาที่สูงและแตกต่างจากโซน 4 อยู่ ดังนั้นคงต้องพิจารณาก่อน
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารฯ กล่าวว่า คาดว่าการเซ็นสัญญาในโซน 1 2 และ 4 จะสามารถเกิดขึ้นภายในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ขณะที่การประกาศผลยกเลิกการประมูลในโซน 3 นั้น ทราบว่า มีการเตรียมองค์ประกอบครบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการบริหารนโยบายแท็บเล็ตฯ และคณะกรรมการประกวดราคาฯ ได้เห็นชอบให้มีการยกเลิกการประมูลในโซน 3 รวมถึง 8 หน่วยงานที่ให้ สพฐ.เป็นเจ้าภาพจัดซื้อได้ลงนามยกเลิกการจัดซื้อในโซนดังกล่าวมาแล้ว อย่างไรก็ตาม กวพอ.จะพิจารณาคำยื่นอุทธรณ์ของบริษัทสุพรีมภายใน 30 วัน ซึ่งหากผลการพิจารณาระบุว่าบริษัท สุพรีมฯ ดำเนินการมาถูกกฎหมายแล้ว ก็อาจมีคำสั่งให้เซ็นสัญญาต่อไปได้ หรือหากไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ก็มีคำสั่งให้ยกเลิกได้เช่นกัน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดซื้อแท็บเล็ตนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มัธยมศึกษาปีที่ 1 และครู จำนวนกว่า 1.6 ล้านเครื่อง ประจำปีการศึกษา 2556 ในโครงการคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ว่า ตนได้ลงนามอนุมัติการจัดซื้อแท็บเล็ตโซน 1 (ภาคกลางและภาคใต้) ของนักเรียนชั้น ป.1 จำนวน 431,105 เครื่อง โซน 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ชั้น ป.1 จำนวน 373,637 เครื่อง และโซน 4 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของนักเรียนชั้น ม.1 และครู จำนวน 402,889 เครื่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เชิญ 8 หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในกำกับ เช่น กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เป็นต้น มาลงนามจัดซื้อกับบริษัทที่ชนะประมูล ได้แก่ บริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ที่ชนะประมูลโซน 1, 2 และบริษัท จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) ที่ชนะประมูลโซน 4 ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถลงนามจัดซื้อได้ช่วงกลางเดือนกันยายน 2556 นี้ โดยตามสัญญากำหนดว่าเมื่อลงนามจัดซื้อแล้ว บริษัทที่ชนะการประมูลจะต้องทยอยจัดส่งแท็บเล็ตให้ถึงปลายทางภายใน 90 วัน ซึ่งคาดว่าประมาณกลางเดือนธันวาคม 2556 นักเรียนบางส่วนจะได้รับการจัดสรรแท็บเล็ต
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดซื้อแท็บเล็ตโซน 3 (ภาคกลางและภาคใต้) ของนักเรียนชั้น ม.1 และครู จำนวน 426,683 เครื่อง ที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา ต่อ 1 นักเรียน มีมติให้ยกเลิกผลการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ซึ่งบริษัท สุพรีม ดิสทีบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ชนะนั้น เพราะมีข้อสังเกตจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตั้งข้อสังเกตถึงราคาที่สูงและอาจมีการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการประกวดราคาของ สพฐ.ได้ให้ บ.สุพรีมฯ ทำข้อมูลชี้แจงเข้ามา ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วก็ยังยืนยันมติเดิม คือ ยกเลิกผลการอี-ออกชันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภายหลังประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัท สุพรีมฯ สามารถยื่นขออุทธรณ์กับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเลคทรอนิกส์ (กวพอ.) ภายใน 3 วัน แต่หากบริษัท สุพรีมฯ เลือกที่จะฟ้องศาลปกครองด้วย และศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็อาจทำให้การจัดซื้อแท็บเล็ตในโซน 3 ดังกล่าวยืดเยื้อออกไป หรือหากไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็เดินหน้าจัดซื้อในโซนนี้ต่อไป
ต่อข้อถามว่า บริษัท สุพรีมฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าหากผลการประมูลโซน 3 ครั้งใหม่ยังมีราคาที่สูงกว่าโซน 4 ทางคณะกรรมการบริหารฯจะมีการพิจารณายกเลิกหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า คงต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบทั้งราคา และการแข่งขัน ซึ่งการประมูลในโซน 3 ครั้งที่ผ่านมามีการประมูลเพียงสองบริษัท และทำการเคาะราคาแค่สองครั้ง แต่ราคาการประมูลที่ได้ยังมีราคาที่สูงและแตกต่างจากโซน 4 อยู่ ดังนั้นคงต้องพิจารณาก่อน
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารฯ กล่าวว่า คาดว่าการเซ็นสัญญาในโซน 1 2 และ 4 จะสามารถเกิดขึ้นภายในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ขณะที่การประกาศผลยกเลิกการประมูลในโซน 3 นั้น ทราบว่า มีการเตรียมองค์ประกอบครบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการบริหารนโยบายแท็บเล็ตฯ และคณะกรรมการประกวดราคาฯ ได้เห็นชอบให้มีการยกเลิกการประมูลในโซน 3 รวมถึง 8 หน่วยงานที่ให้ สพฐ.เป็นเจ้าภาพจัดซื้อได้ลงนามยกเลิกการจัดซื้อในโซนดังกล่าวมาแล้ว อย่างไรก็ตาม กวพอ.จะพิจารณาคำยื่นอุทธรณ์ของบริษัทสุพรีมภายใน 30 วัน ซึ่งหากผลการพิจารณาระบุว่าบริษัท สุพรีมฯ ดำเนินการมาถูกกฎหมายแล้ว ก็อาจมีคำสั่งให้เซ็นสัญญาต่อไปได้ หรือหากไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ก็มีคำสั่งให้ยกเลิกได้เช่นกัน
