“จาตุรนต์” เผยหารือนักกฎหมายชี้ชะตา “ศศิธารา” เบื้องต้นพบกรณีทุจริตครุภัณฑ์อาชีวะ SP2 ต้องให้บอร์ด อกพ.ศธตัดสิน แต่จะศึกษาข้อ กม.อย่างละเอียดด้วยเพื่อความโปร่งใส ระบุบอร์ด อกพ.ศธ.ไม่จำเป็นต้องเห็นสอดคล้องตาม คกก.สอบสวนวินัยร้ยแรงฯ เสนอย้ำทุกอย่างโปร่งใส ไม่มีทางลัด ถึงมีทางลัดสุดท้ายจะมาเจอทางตันที่เจ้าตัวในฐานะประธานบอร์ด อกพ.ศธ.อยู่แล้ว
วันนี้ (7 ต.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานสรุปผลการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และนายภูมิพิชญ์ วโรดมรุจิรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กรณีเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (SP2) : ไทยเข้มแข็ง 2555 สูญหายและส่อว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์โครงการดังกล่าว ตามที่ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการได้ส่งมาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นความลับของทางราชการ แต่เท่าที่ศึกษาข้อกฎหมายและหารือกับนักกฎหมายเบื้องต้น พบข้อมูลว่าการพิจารณาชี้ขาดในกรณีดังกล่าวไม่ได้ถือว่าอำนาจสิ้นสุดอยู่ที่ รมว.ศึกษาธิการ แต่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อกพ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิจารณาและมีมติจึงจะถือว่าสิ้นสุด
“เรื่องนี้ต้องดูและทำให้ถูกต้องชัดเจนสมบูรณ์ตามกฎหมาย เพราะก่อนหน้ามีคนบอกว่าเรื่องต้องสิ้นสุดที่ รมว.ศึกษาธิการ แต่เมื่อให้นักกฎหมายไปดูก็พบว่าตามขั้นตอนต้องส่งให้ อกพ.ศธ.พิจารณาก่อน เพราะต้องการทั้งความถูกต้อง ยุติธรรม สจริต โปรงใส ทั้งนี้ ผมจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของกระทรวงมาหารือในเรื่องนี้ให้ชัดเจน ว่าในส่วนของ อกพ.ศธ.ต้องทำอะไร และ รมว.ศึกษาธิการ ต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะหากทำพลาดไปก็จะส่งผลกระทบเพราะเป็นเรื่องที่ให้ได้ทั้งคุณและโทษ ขณะเดียวกัน ก็จะพิจารณาเฉพาะประเด็นของการสอบสวนวินัยร้ายแรงเท่านั้น ไม่นำประเด็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ผลการพิจารณาของคณะกรรมการป้องการและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาร่วมพิจารณาแต่อย่างใด” นายจาตุรนต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาของ อกพ.ศธ.จะต้องพิจารณาตามที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ ชี้ผลมาหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การพิจารณาของ อกพ.ศธ.นั้น ไม่จำเป็นต้องมีผลตรงกับที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ ชี้ผลมา เพราะฉะนั้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลการสอบสวนขอยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้น ตรงไปตรงมาทุกประการและต่อให้มีการวิ่งทางลัด สุดท้ายก็มาจบที่ตน อีกทั้งใน อกพ.ศธ.ก็มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานและการพิจารณาก็ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการประชุม อกพ.อยู่แล้วแต่ขณะนี้ยังไม่มีการนัดประชุท อกพ.แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะยุติในเรื่องๆ นี้ เพราะไม่มีนโยบายให้ถ่วงเวลา หรือเข้าใครออกใคร หรือกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น แต่จะทำอย่างตรงไปตรงมาที่สุด
วันนี้ (7 ต.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานสรุปผลการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และนายภูมิพิชญ์ วโรดมรุจิรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กรณีเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (SP2) : ไทยเข้มแข็ง 2555 สูญหายและส่อว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์โครงการดังกล่าว ตามที่ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการได้ส่งมาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นความลับของทางราชการ แต่เท่าที่ศึกษาข้อกฎหมายและหารือกับนักกฎหมายเบื้องต้น พบข้อมูลว่าการพิจารณาชี้ขาดในกรณีดังกล่าวไม่ได้ถือว่าอำนาจสิ้นสุดอยู่ที่ รมว.ศึกษาธิการ แต่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อกพ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิจารณาและมีมติจึงจะถือว่าสิ้นสุด
“เรื่องนี้ต้องดูและทำให้ถูกต้องชัดเจนสมบูรณ์ตามกฎหมาย เพราะก่อนหน้ามีคนบอกว่าเรื่องต้องสิ้นสุดที่ รมว.ศึกษาธิการ แต่เมื่อให้นักกฎหมายไปดูก็พบว่าตามขั้นตอนต้องส่งให้ อกพ.ศธ.พิจารณาก่อน เพราะต้องการทั้งความถูกต้อง ยุติธรรม สจริต โปรงใส ทั้งนี้ ผมจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของกระทรวงมาหารือในเรื่องนี้ให้ชัดเจน ว่าในส่วนของ อกพ.ศธ.ต้องทำอะไร และ รมว.ศึกษาธิการ ต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะหากทำพลาดไปก็จะส่งผลกระทบเพราะเป็นเรื่องที่ให้ได้ทั้งคุณและโทษ ขณะเดียวกัน ก็จะพิจารณาเฉพาะประเด็นของการสอบสวนวินัยร้ายแรงเท่านั้น ไม่นำประเด็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ผลการพิจารณาของคณะกรรมการป้องการและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาร่วมพิจารณาแต่อย่างใด” นายจาตุรนต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาของ อกพ.ศธ.จะต้องพิจารณาตามที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ ชี้ผลมาหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การพิจารณาของ อกพ.ศธ.นั้น ไม่จำเป็นต้องมีผลตรงกับที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ ชี้ผลมา เพราะฉะนั้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลการสอบสวนขอยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้น ตรงไปตรงมาทุกประการและต่อให้มีการวิ่งทางลัด สุดท้ายก็มาจบที่ตน อีกทั้งใน อกพ.ศธ.ก็มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานและการพิจารณาก็ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการประชุม อกพ.อยู่แล้วแต่ขณะนี้ยังไม่มีการนัดประชุท อกพ.แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะยุติในเรื่องๆ นี้ เพราะไม่มีนโยบายให้ถ่วงเวลา หรือเข้าใครออกใคร หรือกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น แต่จะทำอย่างตรงไปตรงมาที่สุด