สธ.ย้ำ สสจ.จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม พบยอดผู้ป่วยสะสม 61,716 ราย ไม่มีโรคระบาด มีความเครียด 616 ราย ด้าน รพ.ประจันตคาม ยังเปิดให้บริการตามปกติ
วันนี้ (4 ต.ค.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ใน 24 จังหวัด คลี่คลายเข้าสู่ระยะฟื้นฟูแล้ว 9 จังหวัด ได้เน้นย้ำให้พื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการทุกวัน ผลการให้บริการในรอบ 17 วัน พบผู้ป่วย 61,716 ราย ร้อยละ 41 เป็นโรคน้ำกัดเท้า รองลงมาคือ ไข้หวัด ร้อยละ 30 ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ร้อยละ 15 อุบัติเหตุ ร้อยละ 10 และวิงเวียน ปวดศีรษะ ร้อยละ 4 ไม่มีโรคระบาด ผลการตรวจประเมินสุขภาพจิตจำนวน 3,838 ราย พบผู้มีความเครียด 616 ราย มี 217 ราย ต้องให้การดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เฝ้าระวัง ป้องกันโรคติดต่อที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำท่วม 9 โรคสำคัญ รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคดังกล่าว และได้ให้ อสม.ออกเยี่ยมดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้จัดชุดยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นเป็นชุดปฏิบัติการให้ อสม.ดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยเบื้องต้นได้
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า โรงพยาบาลประจันตคาม ขณะนี้ยังเปิดให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ส่งรถกู้ชีพยกสูงลุยน้ำได้ใช้ในการส่งต่อผู้ป่วย และเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ขนาด 15 ที่นั่ง พร้อมพนักงานขับเรือ สำหรับใช้ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปในหมู่บ้านที่น้ำท่วมสูง เช่น ตำบลเกาะลอย ต.บ้านหอย และเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี ส่งรถสุขาเคลื่อนที่ ให้บริการประชาชนและเจ้าหน้าที่ รพ.ประจันตคาม ด้วย เนื่องจากระบบสุขาภิบาลและระบบบำบัดน้ำเสียของโรงพยาบาลยังใช้การไม่ได้ วันนี้น้ำเริ่มลดลง สูงประมาณ 25 เซนติเมตร ส่วนโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงอื่น เช่น รพ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี รพ.พิมาย จ.นครราชสีมา ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาน้ำท่วม แต่ได้วางระบบการป้องกัน และการดูแลผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งการเตรียมแผนโรงพยาบาลสนามในกรณีน้ำท่วมโรงพยาบาลให้บริการไม่ได้
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยเพิ่มเติมว่าช่วงน้ำท่วมกลุ่มเสี่ยงที่น่าห่วงคือผู้ประสบภัยรับประทานอาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด ส่งผลให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง จึงขอแนะผู้บริจาคที่ต้องการส่งอาหารไปช่วยเหลือให้เลือกอาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จหรืออาหารกล่องที่เก็บได้นาน พร้อมทั้งควรปฏิบัติตนด้วยการล้างมือให้สะอาด ไม่ว่าจะเป็นก่อนการปรุงอาหาร ก่อนรับประทาน โดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค โดยเน้นควรกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือสะอาด ป้องกันโรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ
วันนี้ (4 ต.ค.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ใน 24 จังหวัด คลี่คลายเข้าสู่ระยะฟื้นฟูแล้ว 9 จังหวัด ได้เน้นย้ำให้พื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการทุกวัน ผลการให้บริการในรอบ 17 วัน พบผู้ป่วย 61,716 ราย ร้อยละ 41 เป็นโรคน้ำกัดเท้า รองลงมาคือ ไข้หวัด ร้อยละ 30 ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ร้อยละ 15 อุบัติเหตุ ร้อยละ 10 และวิงเวียน ปวดศีรษะ ร้อยละ 4 ไม่มีโรคระบาด ผลการตรวจประเมินสุขภาพจิตจำนวน 3,838 ราย พบผู้มีความเครียด 616 ราย มี 217 ราย ต้องให้การดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เฝ้าระวัง ป้องกันโรคติดต่อที่พบบ่อยในช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำท่วม 9 โรคสำคัญ รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคดังกล่าว และได้ให้ อสม.ออกเยี่ยมดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้จัดชุดยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นเป็นชุดปฏิบัติการให้ อสม.ดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยเบื้องต้นได้
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า โรงพยาบาลประจันตคาม ขณะนี้ยังเปิดให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ส่งรถกู้ชีพยกสูงลุยน้ำได้ใช้ในการส่งต่อผู้ป่วย และเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ขนาด 15 ที่นั่ง พร้อมพนักงานขับเรือ สำหรับใช้ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปในหมู่บ้านที่น้ำท่วมสูง เช่น ตำบลเกาะลอย ต.บ้านหอย และเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี ส่งรถสุขาเคลื่อนที่ ให้บริการประชาชนและเจ้าหน้าที่ รพ.ประจันตคาม ด้วย เนื่องจากระบบสุขาภิบาลและระบบบำบัดน้ำเสียของโรงพยาบาลยังใช้การไม่ได้ วันนี้น้ำเริ่มลดลง สูงประมาณ 25 เซนติเมตร ส่วนโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงอื่น เช่น รพ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี รพ.พิมาย จ.นครราชสีมา ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาน้ำท่วม แต่ได้วางระบบการป้องกัน และการดูแลผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งการเตรียมแผนโรงพยาบาลสนามในกรณีน้ำท่วมโรงพยาบาลให้บริการไม่ได้
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยเพิ่มเติมว่าช่วงน้ำท่วมกลุ่มเสี่ยงที่น่าห่วงคือผู้ประสบภัยรับประทานอาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด ส่งผลให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง จึงขอแนะผู้บริจาคที่ต้องการส่งอาหารไปช่วยเหลือให้เลือกอาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จหรืออาหารกล่องที่เก็บได้นาน พร้อมทั้งควรปฏิบัติตนด้วยการล้างมือให้สะอาด ไม่ว่าจะเป็นก่อนการปรุงอาหาร ก่อนรับประทาน โดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค โดยเน้นควรกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือสะอาด ป้องกันโรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ
