ศธ.พบโรงเรียนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 430 แห่ง ใน 11 จ.และมีจำนวน 130 โรงที่ได้รับความเสียหายหนักคิดเป็นมูลค่าเกิน 38 ล.
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเร่งดำเนินการช่วยเหลือและดูแลสวัสดิภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยอย่างทั่วถึงและเร่งด่วน และสำหรับในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น เร็วๆ นี้ ตนจะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมสถานศึกษาที่ถูกน้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี จากการสำรวจโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมล่าสุดพบว่าใน 11 จังหวัด มีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วม จำนวน 430 โรงเรียน จาก 19 เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กับอีก 4 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และในจำนวนนี้มีโรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 130 โรงเรียน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 38 ล้านบาท ส่วนโรงเรียนที่เหลือยังไม่มีการสำรวจว่าได้รับความเสียหายอย่างไรบ้าง เนื่องจากต้องรอให้น้ำลดก่อนจึงจะเข้าไปสำรวจความเสียหายได้
“ก่อนเกิดเหตุน้ำท่วมก็ได้มีการแจ้งเตือนให้โรงเรียนต่างๆ เตรียมเคลื่อนย้ายอุปกรณ์จำเป็นขึ้นสู่ที่สูงแล้ว รวมถึงให้ดูแลระมัดระวังปลั๊กไฟที่อยู่ต่ำ เนื่องจากพบว่ามีหลายโรงเรียนได้รับความเสียหายอันเกิดจากไฟฟ้าช็อต ส่วนการเปิด-ปิดการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมนั้น ให้เป็นดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียน ในการพิจารณาเปิด-ปิดโรงเรียนตามความจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเร่งดำเนินการช่วยเหลือและดูแลสวัสดิภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยอย่างทั่วถึงและเร่งด่วน และสำหรับในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น เร็วๆ นี้ ตนจะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมสถานศึกษาที่ถูกน้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี จากการสำรวจโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมล่าสุดพบว่าใน 11 จังหวัด มีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วม จำนวน 430 โรงเรียน จาก 19 เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กับอีก 4 เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และในจำนวนนี้มีโรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 130 โรงเรียน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 38 ล้านบาท ส่วนโรงเรียนที่เหลือยังไม่มีการสำรวจว่าได้รับความเสียหายอย่างไรบ้าง เนื่องจากต้องรอให้น้ำลดก่อนจึงจะเข้าไปสำรวจความเสียหายได้
“ก่อนเกิดเหตุน้ำท่วมก็ได้มีการแจ้งเตือนให้โรงเรียนต่างๆ เตรียมเคลื่อนย้ายอุปกรณ์จำเป็นขึ้นสู่ที่สูงแล้ว รวมถึงให้ดูแลระมัดระวังปลั๊กไฟที่อยู่ต่ำ เนื่องจากพบว่ามีหลายโรงเรียนได้รับความเสียหายอันเกิดจากไฟฟ้าช็อต ส่วนการเปิด-ปิดการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมนั้น ให้เป็นดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียน ในการพิจารณาเปิด-ปิดโรงเรียนตามความจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว