“มัธยมวัดเบญจมฯ-สาธิตละอออุทิศ” ประกาศหยุดเรียน 1 วัน ขณะที่ “จาตุรนต์” ให้ ร.ร.ประเมินสถานการณ์หากมีความเสี่ยง สพฐ.จะเข้าไปดูแลอย่างดี กร้าว! ม็อบมีพรรคการเมืองเข้าไปเอี่ยว ทั้งมีเป้าล้มรัฐบาล
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงมาตรการในการดูแลนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน เนื่องจากจะมีการชุมนุมทางการเมือง ว่า ในส่วนของโรงเรียนซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศธ.ดูแลใกล้ชิดซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถใช้ดุลยพินิจได้เต็มที่ในการพิจารณาเลื่อนเวลาเปิด-ปิด หรือจะปิดเป็นบางโรง หรือหากจำเป็นต้องปิดโรงเรียนหลายโรงพร้อมๆ กัน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็จะใช้ดุลพินิจสั่งการ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ฝ่ายตำรวจได้พยายามหาทางป้องกันและดูแลรักษาความเรียบร้อยเต็มที่ โดยช่วงเช้าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีการเตรียมการเป็นระบบ แต่แม้จะมีการเตรียมการไว้ก็ไม่ควรประมาทเพราะการชุมนุมคราวนี้มีการประกาศชัดเจนว่าไม่ใช่เพียงคัดค้านการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ...เข้าวาระการพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่มีจุดประสงค์ถึงขั้นจะล้มรัฐบาล
“การขัดขวางประชุมสภา ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการกระทบกระทั่งอยู่แล้ว แต่หากมุ่งสู่การล้มรัฐบาลซึ่งเขาจะต้องพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง เพราะฉะนั้น โรงเรียนในพื้นที่ผู้ปกครองต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และ สพฐ.จะดูแลอย่างดี หากเห็นมีความเสี่ยงสูงเกินไปจะหาวิธีหลีกเลี่ยงดีที่สุด ส่วนหากมองในทางการเมืองจะมีความรุนแรงหรือไม่นั้น เท่าที่ดูวัตถุประสงค์ความตั้งใจของผู้ชุมนุม โดยเฉพาะที่มีพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องต้องการล้มรัฐบาล และต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าเพื่อให้เหตุการณ์บานปลายเร็วโอกาสที่จะเกิดหรือไม่เกิดความรุนแรงจะรู้ภายในเวลาสั้นๆ คือความเสี่ยงเกิดความรุนแรงระยะสั้นมีสูง แต่ความเสี่ยงรุนแรงระยะยาวจะมีหรือไม่ต้องประเมินจากสถานการณ์การชุมนุม เพราะเป้าหมายต้องการล้มรัฐบาลอะไรก็เกิดขึ้นได้” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้าน นายชลอ เขียวฉลัว ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้ประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่าเนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และหากมีการปิดถนนด้านบริเวณถนนศรีอยุธยาอีกด้านก็เท่ากับโรงเรียนถูกปิดทั้ง 4 ด้านจะทำให้นักเรียนและครูเดินทางเข้ามาลำบาก จึงได้ประกาศเป็นการภายในให้ทำการปิดการเรียนการสอนในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เป็นเวลา 1 วัน แต่จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะหากมีสถานการณ์ที่อาจจะส่งผลต่อความปลอดภัยของนักเรียนและครูก็จะประกาศปิดการเรียนการสอนเพิ่ม โดยจะประกาศให้ทราบต่อไป
นายบุญธรรม พิมพ์พาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตมัธยม กล่าวว่า ทางโรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอนตามปกติ เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ต่างๆ ไม่น่าจะบานปลายไปสู่การใช้ความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ทุกระยะ สำหรับวันที่ 7 ส.ค.ซึ่งมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นั้น ทางโรงเรียนจะประเมินสถานการณ์ในช่วงเช้าอีกครั้งว่ามีผู้มาชุมนุมมากน้อยแค่ไหน อาจนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ ก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ได้แจ้งผ่านเว็บไซต์ของโรงเรียนประกาศงดการเรียนการสอน 1 วัน ในวันที่ 7 ส.ค.นี้
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงมาตรการในการดูแลนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน เนื่องจากจะมีการชุมนุมทางการเมือง ว่า ในส่วนของโรงเรียนซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศธ.ดูแลใกล้ชิดซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถใช้ดุลยพินิจได้เต็มที่ในการพิจารณาเลื่อนเวลาเปิด-ปิด หรือจะปิดเป็นบางโรง หรือหากจำเป็นต้องปิดโรงเรียนหลายโรงพร้อมๆ กัน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็จะใช้ดุลพินิจสั่งการ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ฝ่ายตำรวจได้พยายามหาทางป้องกันและดูแลรักษาความเรียบร้อยเต็มที่ โดยช่วงเช้าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีการเตรียมการเป็นระบบ แต่แม้จะมีการเตรียมการไว้ก็ไม่ควรประมาทเพราะการชุมนุมคราวนี้มีการประกาศชัดเจนว่าไม่ใช่เพียงคัดค้านการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ...เข้าวาระการพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่มีจุดประสงค์ถึงขั้นจะล้มรัฐบาล
“การขัดขวางประชุมสภา ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการกระทบกระทั่งอยู่แล้ว แต่หากมุ่งสู่การล้มรัฐบาลซึ่งเขาจะต้องพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง เพราะฉะนั้น โรงเรียนในพื้นที่ผู้ปกครองต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และ สพฐ.จะดูแลอย่างดี หากเห็นมีความเสี่ยงสูงเกินไปจะหาวิธีหลีกเลี่ยงดีที่สุด ส่วนหากมองในทางการเมืองจะมีความรุนแรงหรือไม่นั้น เท่าที่ดูวัตถุประสงค์ความตั้งใจของผู้ชุมนุม โดยเฉพาะที่มีพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องต้องการล้มรัฐบาล และต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าเพื่อให้เหตุการณ์บานปลายเร็วโอกาสที่จะเกิดหรือไม่เกิดความรุนแรงจะรู้ภายในเวลาสั้นๆ คือความเสี่ยงเกิดความรุนแรงระยะสั้นมีสูง แต่ความเสี่ยงรุนแรงระยะยาวจะมีหรือไม่ต้องประเมินจากสถานการณ์การชุมนุม เพราะเป้าหมายต้องการล้มรัฐบาลอะไรก็เกิดขึ้นได้” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้าน นายชลอ เขียวฉลัว ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้ประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่าเนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และหากมีการปิดถนนด้านบริเวณถนนศรีอยุธยาอีกด้านก็เท่ากับโรงเรียนถูกปิดทั้ง 4 ด้านจะทำให้นักเรียนและครูเดินทางเข้ามาลำบาก จึงได้ประกาศเป็นการภายในให้ทำการปิดการเรียนการสอนในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เป็นเวลา 1 วัน แต่จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะหากมีสถานการณ์ที่อาจจะส่งผลต่อความปลอดภัยของนักเรียนและครูก็จะประกาศปิดการเรียนการสอนเพิ่ม โดยจะประกาศให้ทราบต่อไป
นายบุญธรรม พิมพ์พาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตมัธยม กล่าวว่า ทางโรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอนตามปกติ เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ต่างๆ ไม่น่าจะบานปลายไปสู่การใช้ความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ทุกระยะ สำหรับวันที่ 7 ส.ค.ซึ่งมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นั้น ทางโรงเรียนจะประเมินสถานการณ์ในช่วงเช้าอีกครั้งว่ามีผู้มาชุมนุมมากน้อยแค่ไหน อาจนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ ก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ได้แจ้งผ่านเว็บไซต์ของโรงเรียนประกาศงดการเรียนการสอน 1 วัน ในวันที่ 7 ส.ค.นี้
