“จาตุรนต์” ไม่หวั่นกระแสข่าวปฏิวัติ ชี้ทุกคนมีบทเรียนแล้วว่าเกิดความเสียหายอย่างไร ฝากผู้ชุมนุมหันหน้ามาคุยกันอย่าใช้วิธีการนอกกรอบ ย้ำ ร.ร.ในพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงยังไม่ปิด ให้อำนาจ ผอ.ร.ร.ตัดสิน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ภายหลังที่รัฐบาลมีการประกาศพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในส่วนของสถานศึกษาตนได้หารือกับ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มาโดยตลอด และกำชับให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประสานไปยังโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการประกาศ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ประกอบด้วย เขตพระนตร ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยให้อำนาจผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาตัดสินใจว่าจะเลื่อนเวลาเปิด-ปิดเรียนหรือไม่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางของนักเรียนและครู เช่น หากช่วงเวลา 08.00 น.การจราจรติดขัดมากก็ให้เลื่อนเวลาเข้าเรียนออกไปช่วงสายแทน เป็นต้น ขณะเดียวกันหากเห็นว่าสถานการณ์เกิดความเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยของนักเรียนก็ให้เป็นดุลยพินิจของโรงเรียนปิดเรียนได้ทันที อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จึงขอให้โรงเรียนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย
ถามว่า กังวลเกี่ยวกับกระแสข่าวการปฏิวัติหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนได้ยินข่าวลือลักษณะนี้มาตลอดตั้งแต่มีการรัฐประหาร ปี 2549 ซึ่งตนไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ห่วงว่าสถานการณ์ของการชุมนุมในคราวนี้นั้นจะเกิดการปฏิวัติ เพราะที่ผ่านมาก็ต่างเห็นแล้วว่าการทำรัฐประหารนั้นสร้างความเลวร้ายเกิดแก่สังคมไทยมากเพียงใด เพราะฉะนั้นข่าวลือที่ปรากฏมาจะจริงหรือไม่ก็ต้องป้องกันและชี้แจงทำความเข้าใจให้สังคมรับรู้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ได้อีก อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมก็เพื่อต้องการล้มรัฐบาลอย่างไม่มีเหตุผล ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงผู้ชุมนุมว่า ไม่จำเป็นต้องหาทางออกนอกกรอบแบบนี้ ขอให้หันหน้ามาคุยและทำความเข้าใจกัน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ภายหลังที่รัฐบาลมีการประกาศพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในส่วนของสถานศึกษาตนได้หารือกับ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มาโดยตลอด และกำชับให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประสานไปยังโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการประกาศ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ประกอบด้วย เขตพระนตร ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยให้อำนาจผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาตัดสินใจว่าจะเลื่อนเวลาเปิด-ปิดเรียนหรือไม่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางของนักเรียนและครู เช่น หากช่วงเวลา 08.00 น.การจราจรติดขัดมากก็ให้เลื่อนเวลาเข้าเรียนออกไปช่วงสายแทน เป็นต้น ขณะเดียวกันหากเห็นว่าสถานการณ์เกิดความเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยของนักเรียนก็ให้เป็นดุลยพินิจของโรงเรียนปิดเรียนได้ทันที อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จึงขอให้โรงเรียนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย
ถามว่า กังวลเกี่ยวกับกระแสข่าวการปฏิวัติหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนได้ยินข่าวลือลักษณะนี้มาตลอดตั้งแต่มีการรัฐประหาร ปี 2549 ซึ่งตนไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ห่วงว่าสถานการณ์ของการชุมนุมในคราวนี้นั้นจะเกิดการปฏิวัติ เพราะที่ผ่านมาก็ต่างเห็นแล้วว่าการทำรัฐประหารนั้นสร้างความเลวร้ายเกิดแก่สังคมไทยมากเพียงใด เพราะฉะนั้นข่าวลือที่ปรากฏมาจะจริงหรือไม่ก็ต้องป้องกันและชี้แจงทำความเข้าใจให้สังคมรับรู้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ได้อีก อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมก็เพื่อต้องการล้มรัฐบาลอย่างไม่มีเหตุผล ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงผู้ชุมนุมว่า ไม่จำเป็นต้องหาทางออกนอกกรอบแบบนี้ ขอให้หันหน้ามาคุยและทำความเข้าใจกัน