xs
xsm
sm
md
lg

สธ.คาด 5 ปี มีผู้ติดเอดส์รายใหม่ 4.3 หมื่นราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.คาดปี 2555-2559 จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 4.3 หมื่นราย โดยกลุ่มเยาวชนสุดเสี่ยง หลังสำรวจพบใช้ถุงยางอนามัยในอัตราเสี่ยง เตรียมร่วมกับสถานศึกษาจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อป้องกันโรคเอดส์

วันนี้ (13 ก.ย.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.มีนโยบายลดปัญหาโรคเอดส์ โดยในปี 2559 จะต้องไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่มีการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ และไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวี จึงต้องเร่งการดำเนินงานโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงปี 2555-2559 คาดว่าจะมีผู้เชื้อรายใหม่ 43,040 ราย และจากการศึกษาข้อมูลการป้องกันตนเองโดยการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด พบเด็กและเยาวชนอายุ 15-24 ปี มีการใช้ถุงยางอนามัยในปี พ.ศ.2552 ร้อยละ 65.27 พ.ศ.2553 ร้อยละ 66.10 ปี พ.ศ.2554 ร้อยละ 63.75 และ พ.ศ.2555 ร้อยละ 68.55 ตามลำดับ นอกจากนี้ข้อมูลพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศส่งผลให้สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของประเทศไทย แนวโน้มมีอัตราป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 5 ปีที่ผ่านมา

นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำนักระบาดวิทยา คร.ได้วิเคราะห์ไว้ว่าอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชัดขึ้นของการระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ระลอกใหม่ กรมควบคุมโรค จึงได้เร่งรัดการดำเนินงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชน โดยได้รับความร่วมมือจากสถานศึกษาทั้งในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ในการเผยแพร่ความรู้ในเรื่องการป้องกันเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ให้กับเยาวชนอย่างหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเพศ เอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

“ในปีนี้มีเด็กและเยาวชนอายุ 12-24 ปี ที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 17,237 ราย การดำเนินงานดังกล่าวได้รับงบประมาณจากโครงการกองทุนโรคด้านการป้องกันเอดส์ และในเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้ กรมควบคุมโรคได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานป้องกันเอดส์ในสถานศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำด้านการป้องกันเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ กิจกรรมป้องกันเอดส์ในสถานศึกษา ในปีงบประมาณหน้าต่อไป เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้นี้ จะแบ่งออกเป็น 4 รุ่น ใน 4 ภาค จำนวน 132 แห่ง โดยภาคเหนือจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคกลางจัดที่จังหวัดราชบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดอุดรธานี และภาคใต้จัดที่จังหวัดตรัง ผู้เข้าประชุมจะเป็นเยาวชนในสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ในพื้นที่ 48 จังหวัด” รองอธิบดี คร.กล่าว

นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า คาดว่าเยาวชนที่ผ่านเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จะเป็นแกนนำในการเผยแพร่ความรู้ในการป้องกันเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปสู่เพื่อนในสถานศึกษาของตน และส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในเยาวชนจะลดลง


กำลังโหลดความคิดเห็น