แกนนำเยาวชนฯ ชี้ระเบียบแพทยสภาทำวัยโจ๋ไม่กล้าตรวจเลือดหาเชื้อเอดส์ ทำรู้ตัวช้ารักษาไม่ทัน ทั้งที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อรายใหม่ เหตุกำหนดเฉพาะอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่ไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครอง ทำหนังสือถึง “หมอประดิษฐ” ผลักดันตรวจได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี แบบลับสายตาพ่อแม่ ด้าน รมว.สธ.บอกเสี่ยงต่อการฟ้องร้อง ต้องมีกฎหมายรองรับ
วันนี้ (1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนงานแถลงข่าว “1 ก.ค.วันรณรงค์ตรวจเอชไอวีแห่งชาติ หรือ VCT Day” ซึ่งมี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน ได้มีแกนนำเยาวชนสุขภาวะวัยรุ่นจังหวัดกรุงเทพฯ ร่วมกับองค์การแพธ นำโดย น.ส.พรนุช สถาผลสวัสดิ์ องค์การแพธ ยื่นหนังสือถึง รมว.สาธารณสุข เพื่อขอให้สนับสนุนให้เยาวชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจเลือดโดยไม่ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอม
น.ส.พรนุช กล่าวว่า จากข้อมูลสถานการณ์ด้านเอชไอวี/เอดส์ในปัจจุบัน พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 12,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชน สาเหตุคือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และเมื่อติดเชื้อก็มักจะไม่รู้ตัว เนื่องจากไม่เคยตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี เพราะสังคมไทยยังไม่เปิดกว้างให้เยาวชนได้เรียนรู้เรื่องเพศ และไม่เปิดกว้างในการเข้าตรวจเลือด
“ปัจจุบันวัยรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่สามารถตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีได้ ต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของแพทยสภาที่กำหนดให้เยาวชนอายุ 18 ปีขึ้นไปตรวจเลือดได้ แต่หากอายุต่ำกว่านั้นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ทำให้เยาวชนไม่กล้าไปตรวจเลือด เพราะไม่กล้าบอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นการสูญเสียโอกาสเพราะหากติดเชื้อก็จะไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จึงขอให้ รมว.สาธารณสุขสนับสนุนการเปลี่ยนนระเบียบให้เยาวชนอายุ 15 ปีขึ้นไปสามารถตรวจเลือดได้” น.ส.พรนุช กล่าว
ด้าน นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ข้อเสนอนี้จะนำไปพิจารณาและพยายามผลักดันเชิงนโยบายต่อไป เนื่องจากระเบียบดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของแพทยสภา ซึ่งล่าสุดแพทยสภาได้ทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า แพทยสภามีอำนาจหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนอายุที่สามารถตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้หรือไม่ เพราะการปรับอายุให้สามารถตรวจเชื้อเอชไอวีให้มีอายุน้อยลง โดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองนั้น สุ่มเสี่ยงต่อปัญหาการฟ้องร้องแพทย์ เรื่องนี้จึงต้องมีกฎหมายรองรับชัดเจน
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประชาชนจำนวนมากไม่คิดว่าตนเองจะติดเชื้อเอชไอวี จึงไม่ไปรับการตรวจเลือด ซึ่งเป็นผลเสียมาก ทำให้มีการแพร่ระบาดในวงกว้าง โดยข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานว่าปี 2555 มีผู้สมัครใจเข้ารับบริการปรึกษา และตรวจหาเชื้อเอชไอวีรวม 562,542 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 547,407 คน พบติดเชื้อ 16,984 คน และในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 15,135 คน พบติดเชื้อ 306 คน จึงต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ ชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย รวมถึงกลุ่มพนักงานบริการ และผู้ใช้สารเสพติดเข้ารับการตรวจเลือดให้มากที่สุด
“วันที่ 1 ก.ค.ถือเป็นวันตรวจเชื้อเอชไอวีแห่งชาติ จึงอยากให้วันดังกล่าวเป็นวันเริ่มต้นในการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวี เพื่อลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้เป็นศูนย์ ที่สำคัญปัจจุบันการตรวจเลือดก็รวดเร็ว สามารถรู้ผลได้เพียงวันเดียว และสามารถเข้ารับบริการได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ทุกสิทธิการรักษา นอกจากนี้ จะมีการจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้บริการปรึกษาและตรวจหาเชื้อเอชไอวีฟรี ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ในวันที่ 7 14 และ 21 ก.ค.นี้ และที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต วันที่ 28 ก.ค.” รมว.สาธารณสุข กล่าว