หญิงไทยป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ พบปี 55 พุ่ง 9,999 ราย ตายเฉลี่ยวันละ 17-19 ราย หมอสูติฯเผยหญิงวัย 20 ปี มีแนวโน้มป่วยมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น เหตุมีเซ็กซ์ตั้งแต่อายุ 10 กว่าปี แถมไม่ป้องกัน ระบุป่วยตั้งแต่อายุน้อยเสียค่าใช้จ่ายรักษาสูงกว่า เพราะต้องพยายามรักษามดลูกไว้ ด้านสถิติตรวจคัดกรองพบหญิงไทยตรวจแค่ 10%
วันนี้ (10 ก.ย.) พญ.ทัศน์วรรณ รังรักษ์ศิริวร อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สถิติของประเทศไทยล่าสุด เมื่อปี 2555 มีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่จำนวน 9,999 ราย เสียชีวิตประมาณ 5,000-6,000 ราย เฉลี่ยวันละ 17-19 รายต่อวัน โดยพบว่าผู้หญิงอายุ 20 กว่าปี มีแนวโน้มเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการสืบและซักประวัติพบว่าเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งนี้ เฉพาะการดำเนินงานของดรุณรักษ์คลินิก ซึ่งเป็นคลินิกนรีเวชในเด็กและวัยรุ่นของภาควิชาสูติศาสตร์ฯ โดยจะดูแลสุขภาพของผู้หญิงตั้งแต่วัยแรกเกิด จนถึงอายุ 20 ปี รวมไปถึงการให้คำปรึกษาวัยรุ่นในเรื่องเพศสัมพันธ์ด้วยนั้น พบว่า ส่วนใหญ่หญิงวัย 20 ปีขึ้นไป ที่เป็นมะเร็งปากมดลูก ก็เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์เร็วตั้งแต่อายุยังน้อย คือประมาณ 10 กว่าปีเท่านั้น
พญ.ทัศน์วรรณ กล่าวอีกว่า การที่ผู้หญิงเป็นมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าผู้หญิงที่อายุมากอย่างวัยประมาณ 45 ปีขึ้นไป เพราะวัยดังกล่าวส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บมดลูกไว้ต่อไป จึงสามารถตัดทิ้งได้เลย แต่ในวัยรุ่นที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์นี้ ยังมีอนาคตที่จะมีครอบครัว และมีทายาทอีก การรักษาจึงต้องใช้วิธีที่หลากหลายและดีที่สุดเพื่อที่จะรักษามดลูกเอาไว้ อย่างไรก็ตาม การรักษาก็ยังคงต้องอิงกับอาการของผู้ป่วย หากจำเป็นที่จะต้องตัดก็ต้องตัดทิ้ง
“มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ การที่วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ไวตั้งแต่อายุยังน้อย ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมากขึ้น เพราะอาจมีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน หรืออาจมีการเปลี่ยนคู่นอน ก็ทำให้การติดเชื้อง่ายขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยที่สุด ก็คือการไม่มีเพศสัมพันธ์เลย แต่ในความเป็นจริงถือว่าเป็นไปได้ยาก หากต้องมีเพศสัมพันธ์ก็ควรต้องมีการป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันการติดโรค” พญ.ทัศน์วรรณ กล่าว
พญ.ทัศน์วรรณ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรทำก็คือมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี แต่ทุกวันนี้ผู้หญิงไทยมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกน้อยมาก คือประมาณ 10% ของประชากรหญิงทั้งประเทศเท่านั้น ทั้งที่มะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของหญิงไทย หากมีการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้รักษาได้อย่างทันท่วงทีและลดการตายจากโรคลงได้
วันนี้ (10 ก.ย.) พญ.ทัศน์วรรณ รังรักษ์ศิริวร อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สถิติของประเทศไทยล่าสุด เมื่อปี 2555 มีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่จำนวน 9,999 ราย เสียชีวิตประมาณ 5,000-6,000 ราย เฉลี่ยวันละ 17-19 รายต่อวัน โดยพบว่าผู้หญิงอายุ 20 กว่าปี มีแนวโน้มเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการสืบและซักประวัติพบว่าเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งนี้ เฉพาะการดำเนินงานของดรุณรักษ์คลินิก ซึ่งเป็นคลินิกนรีเวชในเด็กและวัยรุ่นของภาควิชาสูติศาสตร์ฯ โดยจะดูแลสุขภาพของผู้หญิงตั้งแต่วัยแรกเกิด จนถึงอายุ 20 ปี รวมไปถึงการให้คำปรึกษาวัยรุ่นในเรื่องเพศสัมพันธ์ด้วยนั้น พบว่า ส่วนใหญ่หญิงวัย 20 ปีขึ้นไป ที่เป็นมะเร็งปากมดลูก ก็เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์เร็วตั้งแต่อายุยังน้อย คือประมาณ 10 กว่าปีเท่านั้น
พญ.ทัศน์วรรณ กล่าวอีกว่า การที่ผู้หญิงเป็นมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าผู้หญิงที่อายุมากอย่างวัยประมาณ 45 ปีขึ้นไป เพราะวัยดังกล่าวส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บมดลูกไว้ต่อไป จึงสามารถตัดทิ้งได้เลย แต่ในวัยรุ่นที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์นี้ ยังมีอนาคตที่จะมีครอบครัว และมีทายาทอีก การรักษาจึงต้องใช้วิธีที่หลากหลายและดีที่สุดเพื่อที่จะรักษามดลูกเอาไว้ อย่างไรก็ตาม การรักษาก็ยังคงต้องอิงกับอาการของผู้ป่วย หากจำเป็นที่จะต้องตัดก็ต้องตัดทิ้ง
“มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ การที่วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ไวตั้งแต่อายุยังน้อย ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมากขึ้น เพราะอาจมีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน หรืออาจมีการเปลี่ยนคู่นอน ก็ทำให้การติดเชื้อง่ายขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยที่สุด ก็คือการไม่มีเพศสัมพันธ์เลย แต่ในความเป็นจริงถือว่าเป็นไปได้ยาก หากต้องมีเพศสัมพันธ์ก็ควรต้องมีการป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันการติดโรค” พญ.ทัศน์วรรณ กล่าว
พญ.ทัศน์วรรณ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรทำก็คือมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี แต่ทุกวันนี้ผู้หญิงไทยมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกน้อยมาก คือประมาณ 10% ของประชากรหญิงทั้งประเทศเท่านั้น ทั้งที่มะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของหญิงไทย หากมีการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้รักษาได้อย่างทันท่วงทีและลดการตายจากโรคลงได้