ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจสอบโครงการสร้างสวนสาธารณะ เผยตั้งเเต่รับตำแหน่งพื้นที่เขียวเพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นไร่ โวสร้างเพิ่มอีก 5 พันไร่ คาดทำได้แน่นอน
วันนี้ (1 ส.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโครงการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ในเขตมีนบุรี ได้แก่ บริเวณบึงลำไผ่ เนื้อที่ 78 ไร่ 2 งาน 57 ตารางวา และพื้นที่บริเวณลำบึงพระยา เนื้อที่ 10 ไร่ 3 งาน 27 ตารางวา
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะที่แตกต่างกัน ในส่วนของพื้นที่บึงลำไผ่นั้น ตนอยากให้มีส่วนป่า มีต้นไม้ใหญ่ที่ง่ายต่อการดูแล ประชาชนสามารถขี้จักรยานหรือวิ่งได้ แต่สำหรับพื้นที่บริเวณลำพระยานั้น มีขนาดค่อนข้างเล็กจึงจะทำให้เป็นเพียงสถานที่พักผ่อน สันทนาการ และออกกำลังได้เท่านั้น โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนธันวาคม แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้รับเหมาที่จะมาทำงานเนื่องจากว่าเพิ่งได้รับงบประมาณ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ตนได้เสนอไปช่วงเลือกตั้ง โดยจะมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้อีก 5,000 ไร่ แต่ในการเพิ่มครั้งนี้จะดูเพียงตัวเลขไม่ได้ ตนต้องการให้กรุงเทพฯมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่คือมีเนื้อที่ 10 ไร่ขึ้นไป ซึ่งขณะนี้สำนักสิ่งแวดล้อมได้ทำการศึกษาและสำรวจหาพื้นที่ เพื่อที่จะได้ดำเนินการก่อสร้างสวนสาธารณอีก 9 แห่ง ซึ่งใน 9 แห่งนั้น ตนมั่นใจ 90 เปอร์เซ็นต์ว่าจะต้องได้พื้นที่แน่นอนแต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นที่ใด คาดว่าการดำเนินการสร้างสวนสาธารณจะเพิ่มขึ้นและทำได้อย่างแน่นอน
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่งในสมัยแรกกรุงเทพฯมีพื้นที่สีเขียวทั้งหมด 12,000 ไร่ จำนวน 31 แห่ง แต่ขณะนี้มีประมาณ 17,000 ไร่ หรือประมาณ 3.4 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 4.88 ตารางเมตรต่อคน ตนคาดว่าภายใน 8 ปีที่ดำรงตำแหน่งพื้นที่สีเขียวจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะทางกทม.มีโครงการที่จะเข้าไปเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่บริเวณ บางบอน 100 ไร่ เพชรเกษม 70 ไร่ และ ชายทะเลบางขุนเทียน 47 ไร่
“สำหรับพื้นที่บริเวณมักกะสัน มองว่าหากการรถไฟฯไม่ให้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ แต่ถ้าจะแบ่งพื้นที่ให้ครึ่งหนึ่งทาง กทม.เองก็พร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการ และผมก็เห็นด้วยที่จะนำพื้นที่มาสร้างเป็นสวนสาธารณะ เพราะคนกทม.กระหายพื้นที่สีเขียวมาก และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน หากมีพื้นที่สีเขียวตั้งอยู่ใจกลางเมืองจะเรื่องที่ดีมาก และขณะนี้ผมยังมองไม่ออกว่าหากการรถไฟไทย (ร.ฟ.ท.) จะนำพื้นที่บริเวณดังกล่าวมาทำเป็นศูนย์การค้าจะมีคนมาเช่าหรือไม่ แต่ก็มองว่าสวนสาธารณกับห้างสรรพสินค้าก็สามารถไปด้วยกันได้ ” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
วันนี้ (1 ส.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโครงการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ในเขตมีนบุรี ได้แก่ บริเวณบึงลำไผ่ เนื้อที่ 78 ไร่ 2 งาน 57 ตารางวา และพื้นที่บริเวณลำบึงพระยา เนื้อที่ 10 ไร่ 3 งาน 27 ตารางวา
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะที่แตกต่างกัน ในส่วนของพื้นที่บึงลำไผ่นั้น ตนอยากให้มีส่วนป่า มีต้นไม้ใหญ่ที่ง่ายต่อการดูแล ประชาชนสามารถขี้จักรยานหรือวิ่งได้ แต่สำหรับพื้นที่บริเวณลำพระยานั้น มีขนาดค่อนข้างเล็กจึงจะทำให้เป็นเพียงสถานที่พักผ่อน สันทนาการ และออกกำลังได้เท่านั้น โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนธันวาคม แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้รับเหมาที่จะมาทำงานเนื่องจากว่าเพิ่งได้รับงบประมาณ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ตนได้เสนอไปช่วงเลือกตั้ง โดยจะมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้อีก 5,000 ไร่ แต่ในการเพิ่มครั้งนี้จะดูเพียงตัวเลขไม่ได้ ตนต้องการให้กรุงเทพฯมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่คือมีเนื้อที่ 10 ไร่ขึ้นไป ซึ่งขณะนี้สำนักสิ่งแวดล้อมได้ทำการศึกษาและสำรวจหาพื้นที่ เพื่อที่จะได้ดำเนินการก่อสร้างสวนสาธารณอีก 9 แห่ง ซึ่งใน 9 แห่งนั้น ตนมั่นใจ 90 เปอร์เซ็นต์ว่าจะต้องได้พื้นที่แน่นอนแต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นที่ใด คาดว่าการดำเนินการสร้างสวนสาธารณจะเพิ่มขึ้นและทำได้อย่างแน่นอน
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่งในสมัยแรกกรุงเทพฯมีพื้นที่สีเขียวทั้งหมด 12,000 ไร่ จำนวน 31 แห่ง แต่ขณะนี้มีประมาณ 17,000 ไร่ หรือประมาณ 3.4 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 4.88 ตารางเมตรต่อคน ตนคาดว่าภายใน 8 ปีที่ดำรงตำแหน่งพื้นที่สีเขียวจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะทางกทม.มีโครงการที่จะเข้าไปเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่บริเวณ บางบอน 100 ไร่ เพชรเกษม 70 ไร่ และ ชายทะเลบางขุนเทียน 47 ไร่
“สำหรับพื้นที่บริเวณมักกะสัน มองว่าหากการรถไฟฯไม่ให้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ แต่ถ้าจะแบ่งพื้นที่ให้ครึ่งหนึ่งทาง กทม.เองก็พร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการ และผมก็เห็นด้วยที่จะนำพื้นที่มาสร้างเป็นสวนสาธารณะ เพราะคนกทม.กระหายพื้นที่สีเขียวมาก และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน หากมีพื้นที่สีเขียวตั้งอยู่ใจกลางเมืองจะเรื่องที่ดีมาก และขณะนี้ผมยังมองไม่ออกว่าหากการรถไฟไทย (ร.ฟ.ท.) จะนำพื้นที่บริเวณดังกล่าวมาทำเป็นศูนย์การค้าจะมีคนมาเช่าหรือไม่ แต่ก็มองว่าสวนสาธารณกับห้างสรรพสินค้าก็สามารถไปด้วยกันได้ ” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว