กทม.เร่งติดตามความคืบหน้าโครงการติดกล้อง CCTV พร้อมวางแผนเพิ่มกล้องบนสะพานและดำเนินการเชื่อมต่อสัญญานให้ครบติง กฟน.จ่ายกระแสไฟล่าช้า
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่สำนักการขนส่งจราจร กรุงเทพมหานคร 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุม เรื่องการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดว่า ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามงานที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับทาง กทม.ว่าโครงการติดตั้งกล้อง CCTV จะดำเนินการเสร็จทันเวลาที่กำหนด เมื่อเสร็จแล้วจะได้มีการเชื่อมโยงไปยังสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และ 88 สถานีตำรวจนครบาล โดยขณะนี้มีกล้องที่ติดตั้งเสร็จไปแล้ว 8,000 ตัว และเชื่อมโยงเข้าระบบแล้ว 4,000 กล้อง เหลืออีก 19,000 ตัวที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยขณะนี้มีบริษัทที่ได้ว่าจ้างให้ติดตั้งซึ่งจะต้องทำให้เสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ หากจำนวนกล้องที่ติดตั้งไปแล้วไม่เพียงพอก็จะนำเรื่องเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาต่อไป และทาง สจส.ต้องมีการวางแผนระยะยาวคือ การตั้งศูนย์ใหญ่ในการติดตามการทำงานของกล้อง และหากมีจำนวนกล้องมากกว่า 70,000 ตัว ก็จะต้องตั้งศูนย์ย่อยเพิ่มเติมด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้ตอกย้ำให้มีการเร่งติดกล้องเพิ่ม แต่จะต้องดูว่าจุดใดมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ โดยได้กำชับให้ทางสถานีตำรวจไปดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งเข้ามาเพื่อที่การทำงานจะได้มีความกระชับมากขึ้น ทั้งนี้อาจจะต้องมีการติดตั้งกล้องและไฟส่องสว่างเพิ่มเติมบนสะพานลอย เพราะคือว่ามีความเสี่ยงและง่ายต่อการก่อเหตุอาชญากรรม ทั้งนี้คงไม่สามารถติดตั้งใด้ทุกแห่งอาจจะต้องดูว่าพื้นที่ใดมีจุดเสี่ยงมากที่สุด
“อย่างไรก็ตามในการเชื่อมต่อสัญญาณนั้น ขณะนี้ถือว่าติดขัดเนื่องจากยังมีความล่าช้า ในการขอใช้กระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แต่ได้มีการติดต่อประสานงานไปยัง กฟน.เพื่อขอความร่วมมือให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน แต่ขณะนี้ยังติดขัดในเรื่องของกฎหมายกรุงเทพมหานครที่จะได้เร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่สำนักการขนส่งจราจร กรุงเทพมหานคร 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุม เรื่องการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดว่า ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามงานที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับทาง กทม.ว่าโครงการติดตั้งกล้อง CCTV จะดำเนินการเสร็จทันเวลาที่กำหนด เมื่อเสร็จแล้วจะได้มีการเชื่อมโยงไปยังสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และ 88 สถานีตำรวจนครบาล โดยขณะนี้มีกล้องที่ติดตั้งเสร็จไปแล้ว 8,000 ตัว และเชื่อมโยงเข้าระบบแล้ว 4,000 กล้อง เหลืออีก 19,000 ตัวที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยขณะนี้มีบริษัทที่ได้ว่าจ้างให้ติดตั้งซึ่งจะต้องทำให้เสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ หากจำนวนกล้องที่ติดตั้งไปแล้วไม่เพียงพอก็จะนำเรื่องเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาต่อไป และทาง สจส.ต้องมีการวางแผนระยะยาวคือ การตั้งศูนย์ใหญ่ในการติดตามการทำงานของกล้อง และหากมีจำนวนกล้องมากกว่า 70,000 ตัว ก็จะต้องตั้งศูนย์ย่อยเพิ่มเติมด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้ตอกย้ำให้มีการเร่งติดกล้องเพิ่ม แต่จะต้องดูว่าจุดใดมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ โดยได้กำชับให้ทางสถานีตำรวจไปดำเนินการตรวจสอบ และแจ้งเข้ามาเพื่อที่การทำงานจะได้มีความกระชับมากขึ้น ทั้งนี้อาจจะต้องมีการติดตั้งกล้องและไฟส่องสว่างเพิ่มเติมบนสะพานลอย เพราะคือว่ามีความเสี่ยงและง่ายต่อการก่อเหตุอาชญากรรม ทั้งนี้คงไม่สามารถติดตั้งใด้ทุกแห่งอาจจะต้องดูว่าพื้นที่ใดมีจุดเสี่ยงมากที่สุด
“อย่างไรก็ตามในการเชื่อมต่อสัญญาณนั้น ขณะนี้ถือว่าติดขัดเนื่องจากยังมีความล่าช้า ในการขอใช้กระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แต่ได้มีการติดต่อประสานงานไปยัง กฟน.เพื่อขอความร่วมมือให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน แต่ขณะนี้ยังติดขัดในเรื่องของกฎหมายกรุงเทพมหานครที่จะได้เร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
