สมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อาคารผู้ป่วยขนาด 5 ชั้น รพ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต สธ.ตั้งเป้าขยายเตียง เพิ่มศักยภาพรองรับชาวไทยในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เผยมีล่ามอาสาสามารถสื่อสารได้ 40 ภาษา เล็งพัฒนาระบบบริการฉุกเฉิน ติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจประจำโรงแรมบางแห่ง กู้ชีวิตผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉินเบื้องต้น
วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.10 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้ป่วยอเนกประสงค์ 5 ชั้น โรงพยาบาลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้ตรวจราชการ สธ.เขต 11 ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ รพ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เฝ้ารับเสด็จฯ
นพ.ณรงค์ กราบทูลถวายรายงานว่า ในปีงบประมาณ 2554 สธ.ได้จัดสรรงบประมาณวงเงิน 69.5 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยขนาด 5 ชั้น ให้ รพ.ป่าตอง เพิ่มศักยภาพในการรักษาพยาบาลคนไทยที่อยู่ใน อ.กระทู้ ซึ่งมีประมาณ 2 แสนคน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ โดยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 5 ชั้น พร้อมชั้นใต้ถุนอาคารที่ออกแบบเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ประกอบด้วย หอผู้ป่วยสามัญ หอผู้ป่วยพิเศษ แผนกทันตกรรม และหน่วยงานสนับสนุน เช่น คลังพัสดุ คลังยาและเวชภัณฑ์ ใช้เวลาก่อสร้าง 700 วัน กำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปลาย พ.ย. 2556 หลังจากนั้น รพ.ป่าตอง จะมีพื้นที่รองรับการให้บริการเพิ่มขึ้นจาก 60 เตียง เป็น 130 เตียง
ด้าน นพ.ศิริชัย ศิลปะอาชา ผู้อำนวยการ รพ.ป่าตอง กล่าวว่า รพ.ป่าตอง เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนโรงพยาบาลภาครัฐของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว แต่ละปีมีชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งร้อยละ 70 จะพำนักในพื้นที่อำเภอกระทู้ และเข้าไปใช้บริการที่ รพ.ป่าตองจำนวนมาก ต่อวันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาร้อยละ 25 เป็นนักท่องเที่ยว ร้อยละ 10 เป็นแรงงานต่างชาติ และอีกร้อยละ 65 เป็นคนไทย จึงพัฒนาระบบบริการให้อยู่ระดับสากล โดยได้จัดล่ามอาสา เข้ามาช่วยในงานบริการ สามารถสื่อภาษากับผู้ป่วยต่างชาติได้ 40 ภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และจัดระบบประสานเรียกเก็บค่ารักษาจากประกันสุขภาพของต่างชาติกว่า 40 บริษัทในยุโรป อเมริกา อยู่ระหว่างพัฒนากับบริษัทในญี่ปุ่น จีนด้วย
“เร็วๆ นี้ จะวางแผนพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งจากอุบัติเหตุและผู้ป่วยวิกฤตอื่นๆ ให้มีความรวดเร็ว ปลอดภัย เชื่อมโยงกับ รพ.วชิระภูเก็ต และ รพ.ถลาง เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจสถานที่ เพื่อติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจ สำหรับช่วยชีวิตเบื้องต้นผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น เช่นเดียวกับที่สนามบินญี่ปุ่นใช้ อาจเป็นโรงแรมที่อยู่ริมหาดบางแห่ง และจัดหาพื้นที่ เพื่อเป็นจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ในการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินไปโรงพยาบาลใหญ่ ในกรณีที่เส้นทางปกติเกิดปัญหาการติดขัดทางการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยผู้ป่วย ขณะนี้มีผู้ป่วยอุบัติเหตุมากกว่า 10 รายต่อวัน ส่วนใหญ่เกิดจากการจมน้ำ โดยหน่วยกู้ชีพเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุภายใน 5-10 นาที” ผอ.รพ.ป่าตอง กล่าว
วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.10 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้ป่วยอเนกประสงค์ 5 ชั้น โรงพยาบาลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้ตรวจราชการ สธ.เขต 11 ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ รพ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เฝ้ารับเสด็จฯ
นพ.ณรงค์ กราบทูลถวายรายงานว่า ในปีงบประมาณ 2554 สธ.ได้จัดสรรงบประมาณวงเงิน 69.5 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยขนาด 5 ชั้น ให้ รพ.ป่าตอง เพิ่มศักยภาพในการรักษาพยาบาลคนไทยที่อยู่ใน อ.กระทู้ ซึ่งมีประมาณ 2 แสนคน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ โดยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 5 ชั้น พร้อมชั้นใต้ถุนอาคารที่ออกแบบเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ประกอบด้วย หอผู้ป่วยสามัญ หอผู้ป่วยพิเศษ แผนกทันตกรรม และหน่วยงานสนับสนุน เช่น คลังพัสดุ คลังยาและเวชภัณฑ์ ใช้เวลาก่อสร้าง 700 วัน กำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปลาย พ.ย. 2556 หลังจากนั้น รพ.ป่าตอง จะมีพื้นที่รองรับการให้บริการเพิ่มขึ้นจาก 60 เตียง เป็น 130 เตียง
ด้าน นพ.ศิริชัย ศิลปะอาชา ผู้อำนวยการ รพ.ป่าตอง กล่าวว่า รพ.ป่าตอง เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนโรงพยาบาลภาครัฐของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว แต่ละปีมีชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งร้อยละ 70 จะพำนักในพื้นที่อำเภอกระทู้ และเข้าไปใช้บริการที่ รพ.ป่าตองจำนวนมาก ต่อวันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาร้อยละ 25 เป็นนักท่องเที่ยว ร้อยละ 10 เป็นแรงงานต่างชาติ และอีกร้อยละ 65 เป็นคนไทย จึงพัฒนาระบบบริการให้อยู่ระดับสากล โดยได้จัดล่ามอาสา เข้ามาช่วยในงานบริการ สามารถสื่อภาษากับผู้ป่วยต่างชาติได้ 40 ภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และจัดระบบประสานเรียกเก็บค่ารักษาจากประกันสุขภาพของต่างชาติกว่า 40 บริษัทในยุโรป อเมริกา อยู่ระหว่างพัฒนากับบริษัทในญี่ปุ่น จีนด้วย
“เร็วๆ นี้ จะวางแผนพัฒนาระบบบริการผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งจากอุบัติเหตุและผู้ป่วยวิกฤตอื่นๆ ให้มีความรวดเร็ว ปลอดภัย เชื่อมโยงกับ รพ.วชิระภูเก็ต และ รพ.ถลาง เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจสถานที่ เพื่อติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจ สำหรับช่วยชีวิตเบื้องต้นผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น เช่นเดียวกับที่สนามบินญี่ปุ่นใช้ อาจเป็นโรงแรมที่อยู่ริมหาดบางแห่ง และจัดหาพื้นที่ เพื่อเป็นจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ในการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินไปโรงพยาบาลใหญ่ ในกรณีที่เส้นทางปกติเกิดปัญหาการติดขัดทางการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยผู้ป่วย ขณะนี้มีผู้ป่วยอุบัติเหตุมากกว่า 10 รายต่อวัน ส่วนใหญ่เกิดจากการจมน้ำ โดยหน่วยกู้ชีพเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุภายใน 5-10 นาที” ผอ.รพ.ป่าตอง กล่าว