xs
xsm
sm
md
lg

เตือนผู้มีโรคประจำตัวไม่ควรไปปฏิบัติธรรมไกลบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมควบคุมโรคเตือนผู้มีโรคประจำตัวที่จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมต้องเตรียมยาไปรับประทานให้ครบตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันโรคกำเริบขณะปฏิบัติธรรม และควรชวนเพื่อนไปร่วมปฏิบัติธรรมด้วย
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
   วันนี้ (23 ก.ค.) น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพของผู้ปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเนื่องจากในช่วงนี้ประชาชนจะไปเข้าวัด ถือศีล นั่งสมาธิ ซึ่งบางรายไปแบบเช้าไป-เย็นกลับ บางรายไปแบบค้างคืน ขณะที่สถานปฏิบัติธรรมบางแห่งจัดให้มีการนั่งสมาธิติดต่อกันนานเป็นสัปดาห์ ซึ่งผู้ที่สามารถอยู่ปฏิบัติธรรมได้นานมักเป็นผู้สูงอายุ บางคนไม่แข็งแรงมีโรคประจำตัวจากสถิติที่ได้จากการคัดกรองประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 22.2 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2554 พบผู้ป่วยเบาหวาน 1.5 ล้านคนเศษ ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ นอกจากนี้พบผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 2.6 ล้านคนเศษ ซึ่งบางรายมีภาวะแทรกซ้อนทางตา ทางไต ทางหัวใจ ทางสมองร่วมด้วย
   ด้านดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การปฏิบัติธรรมในช่วงเทศกาลมักจะมีผู้ไปปฏิบัติธรรมมาก ซึ่งอาจมีความไม่สะดวกในด้านต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ปฏิบัติธรรมให้ความสนใจการการปฏิบัติธรรมควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ ก่อนไปปฏิบัติธรรมเป็นเวลานานผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ควรปฏิบัติดังนี้ 1.ตรวจสุขภาพร่างกายโดยละเอียดว่ามีโรคแทรกซ้อนหรือไม่ หากมีโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต ไม่ควรไปปฏิบัติธรรมไกลบ้านครั้งละนานๆ นอกจากนี้ต้องมั่นใจว่าสามารถควบคุมเบาหวาน ความดันได้ดี 2.ควรจัดเตรียมถุงหรือกล่องใส่ยาพร้อมอุปกรณ์ เช่น ยาเม็ดลดน้ำตาล หรืออินซิลิน แถบตรวจน้ำตาลในปัสสาวะ ลูกอม น้ำผลไม้สำหรับรักษาภาวะทางน้ำตาล ยาความดันโลหิตสูง หรือยาประจำตัวต่างๆ เป็นต้น ควรเตรียมไว้ 2 ชุด คือชุดหนึ่งใส่ในกระเป๋าเดินทาง อีกชุดหนึ่งติดตัวไว้ตลอดเวลาไว้ในกระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกง 3.ทำบัตรแสดงตัวว่าเป็นเบาหวาน/ความดัน ซึ่งควรมีรายละเอียดของการได้รับยาอะไรเป็นประจำ และต้องมีการช่วยเหลือเบื้องต้น อย่างไรก็ตามบัตรนี้ควรติดตัวอยู่เสมอ โดยผู้ที่มีโรคประจำตัวควรมีเพื่อนไปร่วมปฏิบัติธรรมด้วย
   สำหรับช่วงเวลาปฏิบัติธรรมผู้มีโรคประจำตัวต้องรับประทานยาให้ครบตามแพทย์สั่ง และสังเกตอาการต่างๆ ของตนเองในช่วงพักการปฏิบัติธรรม เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวานต้องคอยสังเกตเท้าอย่าให้เป็นแผล เนื่องจากการปฏิบัติธรรมต้องเดินเท้าเปล่า หากเป็นแผลต้องดูแลรักษาแผลให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ นอกจากนี้หากมีอาการน้ำตาลสูง ได้แก่ อาการกระหายน้ำ ปัสสาวะมาก อ่อนเพลียต้องรีบบอกเจ้าหน้าที่ในศูนย์ปฏิบัติธรรม ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หากมีอาการอ่อนแรงของหน้า แขน ขาอย่างทันที ซึ่งจะเป็นซีกเดียวของร่างกาย การมองเห็นลดลงอย่างทันทีทันใด มึนงง สูญเสียความสมดุลของการเดินอย่างทันทีทันใด ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รีบส่งโรงพยาบาล เพราะนั่นเป็นสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาจทำให้เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้ ส่วนสถานที่จัดให้มีการปฏิบัติธรรม ควรมีผู้มีความรู้ด้านการปฐมพยาบาล มียาสามัญประจำบ้าน ชุดปฐมพยาบาล และอุปกรณ์ที่ยังไม่หมดอายุไว้สำหรับช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมในเบื้องต้น และควรมีการประสานงานกับโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อรับส่งต่อผู้ป่วย นอกจากนี้การเตรียมอาหารสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ขอให้เป็นอาหารปรุงสุกใหม่ๆ เพื่อป้องกันโรคอุจจาระร่วง และควรมีการดูแลผู้ที่มีโรคประจำตัวผู้แพ้ยา แพ้อาหารเป็นพิเศษระหว่างการปฏิบัติธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น