พศ.ส่งหนังสือแจ้ง “สมเด็จพระวันรัต” สึก “สมีคำ” ด้าน “สงกรานต์” เผยผู้แจ้งเบาะแส ส่งรูปบ้านที่ จ.นครนายก เตรียมส่งไม้ต่อ ปปง.ตรวจสอบ
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า พศ.กำลังเตรียมความพร้อมในกรณีที่หากมีการนำตัวอดีตพระวิรพล มาดำเนินคดีที่ไทยได้ แต่อดีตพระวิรพลยังไม่ยอมสึก และยังมีการแต่งกายในลักษณะพระสงฆ์อยู่ ดังนั้นทาง พศ.จะทำหนังสือแจ้งไปยังสมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ให้มีการสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรว่าหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้น จะมอบให้พระสงฆ์รูปใดเพื่อให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย ซึ่งขณะนี้อดีตพระวิรพลถือว่าเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดทางอาญาแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนมีอำนาจในการใช้ดุลยพินิจดำเนินการได้ ดังนั้นจึงจะต้องทำหนังสือแจ้งไปยังสมเด็จพระวันรัต ว่าเห็นควรจะให้ดำเนินการอย่างไร
ถึงแม้ว่าอดีตพระวิรพลยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ต่อคำวินิจฉัยของคณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ที่วินิจฉัยว่าอดีตพระวิรพลมีความผิด ต้องอาบัติปาราชิก เนื่องจากมีกรณีเรื่องของการเสพเมถุน โดยจะต้องยื่นอุทธรณ์ด้วยตัวเอง ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่มีการประกาศคำวินิจฉัยให้ทราบ แต่ในส่วนของคดีอาญาใน 3 ข้อหา ซึ่งมีการออกหมายจับแล้วนั้น มีคดีฐานฉ้อโกงประชาชนด้วยการลงข้อความอันเป็นเท็จ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์รวมอยู่ด้วย ซึ่งตามมาตรา 29 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ระบุชัดว่า พระภิกษุรูปใดถูกจับโดยต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการไม่เห็นสมควรให้ปล่อยตัวชั่วคราว และเจ้าอาวาสวัดที่พระภิกษุรูปนั้นสังกัดไม่รับมอบตัวไปควบคุม พรือพนักงานสอบสวนไม่เห็นสมควรให้เจ้าอาวาสรับตัวไปควบคุม หรือพระภิกษุรูปนั้นมิได้สังกัดวัดใดวัดหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจจัดดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้
ด้านนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีผู้แจ้งเบาะแสว่ามีการพบบ้านหลังหนึ่งที่ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก โดยต้องการประสานมายังตนเพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่าจะเป็นทรัพย์สินของอดีตพระวิรพลหรือไม่นั้น ขณะนี้ผู้ที่แจ้งเบาะแสดังกล่าวได้ส่งรูปบ้านหลังดังกล่าวมาให้ตนแล้ว โดยระบุด้วยว่าอดีตพระวิรพลเดินทางมาที่บ้านหลังนี้เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าตนจะนำข้อมูลที่ได้รับไปมอบให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการตรวจสอบต่อไป