xs
xsm
sm
md
lg

DSI สอบพระร่วมคณะ"สมีคำ"รับกิจนิมนต์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
"สงกานต์"หอบวัตถุมงคลที่มีเส้นผม สมีคำ ส่งดีเอสไอตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำไปใช้ในตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูก ด้านดีเอสไอเร่งสอบปากคำพระ5 รูปที่เดินทางร่วมคณะกับอดีตเณรคำ ไปรับกิจนิมนต์ที่ประเทศฝรั่งเศสเพิ่ม

วันนี้ ( 7 ส.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางมามอบหลักฐานให้กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบบดีดีเอสไอ ผ่าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อนำไปใช้ในตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ กับเด็กชาย ที่มีหญิงสาวอ้างว่าได้ร่วมหลับนอนกับอดีตพระเณรคำ โดยหลักฐานที่นำมานั้นเป็นวัตถุมงคลที่มีเส้นผมติดอยู่ด้วยหลายเส้นและพระเครื่องที่มีเส้นผมติดอยู่นั้นเป็นพระรุ่นชานหมากผสมเกษาซึ่งพระรุ่นดังกล่าวนั้นอดีตพระเณรคำได้เคี้ยวหมากผสมกับเส้นผมสร้างพระรุ่นนี้ขึ้นมาโดยราคาในการเช่าพระรุ่นนี้องค์ละ 15,000บาท ทั้งนี้ยังนำเศษชิ้นส่วนจีวรของอดีตพระเณรคำ

นายสงกานต์ กล่าวว่า หลักฐานทั้งหมดที่ตนนำมาในวันนี้ได้มาจากอดีตศิษย์ที่ใกล้ชิดพระเณรคำ นำมาให้ตนเพื่อนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ

ด้านนายอังสุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง กล่าวถึงการสอบสวนคดีความผิดของนายวิรพล ว่า ระหว่างรอการเข้ามอบตัวของอดีตเณรคำ พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในการดำเนินคดีความผิด จะเร่งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทุกปากเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงให้รัดกุมและชัดเจนทุกประเด็นตามที่ขอศาลอนุมัติหมายจับไว้ โดยจะลงพื้นที่สอบปากคำพระอีก 5 รูปที่เดินทางร่วมคณะกับอดีตเณรคำ ไปรับกิจนิมนต์ที่ประเทศฝรั่งเศสและเดินทางกลับมาก่อน ขณะนี้จำพรรษาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ

อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานที่สอบสวนได้ทั้งหมด มั่นใจว่าเพียงพอที่จะสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องอดีตเณรคำได้ ส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อว่าหลังรวบรวมพยานหลักฐาน ความผิดของอดีตเณรคำชัดเจนแล้ว จะทำให้เห็นภาพผู้เกี่ยวข้องรายอื่น ซึ่งดีเอสไอจะขยายผลไปยังผู้มีส่วนร่วมกระทำความผิดทุกคน โดยเฉพาะฐานความผิดเกี่ยวกับหลอกลวงประชาชน ที่ต้องมีบุคคลอื่นร่วมกระทำความผิดแน่นอน


นายอังสุเกติ์ กล่าวต่อว่า สำหรับฐานความผิดอื่น เช่น กรณีฟอกเงินและยาเสพติด ยังไม่มีมูลเพียงพอในการตั้งข้อหา โดยในส่วนความผิดฐานฟอกเงินอยู่ระหว่างประสานขอข้อมูล และเอกสานการเงินกับธนาคาร เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของธุรกรรมอย่างละเอียด ว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินผิดปกติหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวต้องใช้ระยะสักระยะ เพราะมีเอกสารต้องตรวจสอบจำนวนมาก.
(แฟ้มภาพ)




กำลังโหลดความคิดเห็น