xs
xsm
sm
md
lg

โจ๋ไทยคลอดลูก ชม.ละ 15 คน สูงกว่าระดับโลก 6% นครนายกป่องเยอะสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัยรุ่นไทยคลอดลูกเฉลี่ยชั่วโมงละ 15 คน สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับโลกถึง 6% สธ.เผยจังหวัดที่มีอัตราการท้องของวัยรุ่นสูงสุดคือ นครนายก ที่ 109 คน ต่อ 1,000 คน เล็งเปิดคลินิกวัยรุ่นเพิ่มใน รพ.สต.หวังเข้าถึงบริการมากขึ้น
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วันประชากรโลกซึ่งตรงกับวันที่ 11 ก.ค.ของทุกปี โดยปีนี้องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญกับปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพราะแต่ละปีทั่วโลกมีวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี คลอดบุตรประมาณ 16 ล้านคน และมี 3 ล้านคนยุติการตั้งครรภ์โดยการทำแท้งเถื่อน ขณะที่การเข้าถึงการคุมกำเนิดมีเพียงร้อยละ 22 และพบว่าการคลอดบุตรเป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตของเด็กอายุ 15-24 ปี สำหรับประเทศไทย ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2555 พบว่า ผู้หญิงอายุ 15-49 ปี จำนวน 17 ล้านกว่าคน แม้จะมีอัตราการเจริญพันธุ์ลดลง โดยหญิงไทย 1 คน มีบุตรเฉลี่ยคนละ 1.5 คน แต่กลับพบปัญหาวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี ตั้งครรภ์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2554 พบวัยรุ่นอายุ 10-19 ปี คลอดบุตรจำนวน 131,400 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 15 คน คิดเป็นร้อยละ 17 ของหญิงคลอดบุตรทั้งหมด สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับโลกที่อยู่ที่ร้อยละ 11

“การแก้ปัญหา สธ.ใช้กลยุทธ์เข้าใจ เข้าถึง ช่วยเหลือกรณีท้องไม่พร้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งคลินิกวัยรุ่นในโรงพยาบาลศูนย์ 834 แห่งทั่วประเทศ เน้นให้บริการแบบเป็นมิตรและฟรี ให้คำปรึกษาแก่วัยรุ่นทุกเรื่อง ทั้งความสวยความงาม เพศ การดูแลสุขภาพและอนามัยเจริญพันธุ์ การคุมกำเนิด เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น หรือติดเชื้อเอดส์ โดยมีการประสานกับมุมเพื่อนใจวัยรุ่นในโรงเรียน เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด และศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กถูกทำร้ายรุนแรงด้วย” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ปี 2557 จะขยายลงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อให้เด็กเยาวชนเข้าถึงบริการให้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังจัดทำโครงการอำเภออนามัยเจริญพันธุ์ เพื่อกระตุ้นการทำงานแบบบูรณาการในทุกพื้นที่ ส่วนเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการควบคู่คือ การสร้างความเข้าใจแก่สังคมทุกระดับ รับรู้ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่น เพื่อมุ่งเน้นการป้องกัน ชะลอการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีโดยป้องกัน โดยมอบหมายให้ สสส.ร่วมกับมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิงดำเนินการ เน้น 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี กลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี และกลุ่มพ่อแม่

ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลสำรวจของกรมอนามัยในปี 2553 จังหวัดที่พบวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี มีอัตราการตั้งครรภ์สูง 5 อันดับแรกของประเทศ เมื่อเทียบกับจำนวนวัยรุ่นกลุ่มอายุเดียวกันทุก 1,000 คน ได้แก่ นครนายก อัตรา 109 คน รองลงมาคือ ตาก อัตรา 97 คน ระยอง อัตรา 87 คน ชลบุรี อัตรา 84 คน และสมุทรสาคร อัตรา 81 คน

นพ.เจษฎา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ไทยมีการเปลี่ยนแปลงด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ทำให้โครงสร้างประชากรเปลี่ยนเป็นสังคมผู้สูงอายุ อาจประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานรุนแรงในอนาคต มีสาเหตุมาจาก 7 ประการ ได้แก่ 1.การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพและแพร่หลายมากขึ้น 2.จำนวนเด็กเกิดลดลงและด้อยคุณภาพจากแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม 3.การลดลงของจำนวนบุตรเกิดรอดต่อสตรีสมรสในแต่ละกลุ่มอายุ 4.การมีบุตรคนแรกแนวโน้มมีในอายุมากขึ้น 5.แบบแผนการสมรสของประชากรมีแนวโน้มไปสู่การเป็นโสดเพิ่มมากขึ้น 6.สังคมไทยมีแนวโน้มครอบครัวล่มสลายเพิ่มสูงขึ้น อัตราการหย่าร้างเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 7.แบบแผนครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นครอบครัวซึ่งคู่สมรสไม่มีบุตร

“การตั้งครรภ์ไม่พร้อมของวัยรุ่น ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวาง เช่น การทำแท้งไม่ปลอดภัย บางรายมีการติดเชื้อรุนแรง จนต้องตัดมดลูกทิ้ง เพื่อช่วยชีวิต และไม่สามารถมีลูกได้ตลอดชีวิต การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด การเจ็บครรภ์ขณะคลอดนานกว่าแม่ทั่วไป ส่วนเด็กที่เกิดจากแม่วัยรุ่น จะพบว่ามีน้ำหนักตัวน้อยกว่าแม่ทั่วไป รวมทั้งพัฒนาการด้านต่างๆ ส่งผลไปถึงครอบครัว ชุมชน สังคม เศรษฐกิจของประเทศ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น