xs
xsm
sm
md
lg

อินโดนีเซียหนุนผู้หญิงเลือกท้องหรือแท้งได้ ส่วนไทยเน้นให้คำปรึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อินโดนีเซียหนุนผู้หญิงมีสิทธิเลือก “ท้องหรือแท้ง” ขณะที่ “ไทย” มุ่งผลักดันการให้บริการปรึกษาสำหรับผู้หญิงที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อม ส่วนการทำแท้งต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับแพทยสภา 6 ข้อ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
น.ส.นินุก วิดยานโตโร นักจิตวิทยา และนักสิทธิสตรี จากประเทศอินโดนีเซีย กล่าวถึงประเด็นเรื่อง “การทำแท้ง” ในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง การสร้างความเข้มแข็งงานขับเคลื่อนด้านความเป็นธรรมทางเพศ : ประสบการณ์จากเพื่อนบ้านอาเซียน จัดโดยแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า จากประสบการณ์ที่ได้พบเห็นผู้หญิงและเด็กวัยรุ่นถูกปฏิเสธไม่ให้ได้รับบริการทำแท้ง เพราะคนส่วนใหญ่มักจะมองประเด็นทางศีลธรรมแต่ไม่มองในเรื่องของสิทธิการเข้ารับบริการทางสุขภาพที่มีมาตรฐาน โดยปี 2543 ตนได้เริ่มทำการศึกษาจากประสบการณ์ของเด็กวัยรุ่นหญิงที่ต้องยุติการตั้งครรภ์และทัศนคติของผู้ให้บริการ และได้เดินหน้าเพื่อแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการทำแท้ง จนกระทั่งปี 2552 ประเทศอินโดนีเซียได้ผ่านกฎหมายที่เอื้อต่อการทำแท้งที่ปลอดภัยและขณะนี้ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดทำร่างระเบียบเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว

คงไม่มีใครอยากตั้งครรภ์ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่เมื่อหญิงเกิดตั้งครรภ์โดยไม่พึ่งประสงค์ และอาจมีแผนการอื่นในชีวิต ผู้หญิงก็กลับไม่มีสิทธิเลือก ขณะเดียวกันผู้ชายกลับปัดความรับผิดชอบ ซึ่งสุดท้ายสิทธิในการตัดสินใจยังเป็นของผู้ชายอยู่ ทำให้ในอินโดนีเซียมีอัตราการตายของแม่ในการคลอดสูงขึ้นเรื่อย โดยพบว่า 15% ของแม่ที่คลอดลูกเสียชีวิต รวมถึงการทำแท้ง ทุกๆ ชั่วโมงจะมีหญิง 2 คน จะเสียชีวิต” นักจิตวิทยาและนักสิทธิสตรี กล่าวและว่า การยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ในปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การยอมรับมีการนำขึ้นเว็บไซต์ WHO อย่างชัดเจน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัย ส่วนในอินโดนีเซียหลังจากที่รัฐสภาผ่านกฎหมาย ทำให้ผู้หญิงสิทธิที่จะเลือกว่าจะตั้งครรภ์ต่อไปหรือจะยุติตั้งครรภ์ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องไปพบแพทย์

นางทัศนัย ขันตยาภรณ์ ที่ปรึกษาโครงการประจำองค์กรแพธ ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อสังคมไทยไม่ยอมพูดเรื่องทำแท้ง สิ่งที่ตามมา คือ การไม่เรียนรู้เทคโนโลยีการยุติการตั้งครรภ์ที่ทันสมัย แม้แต่การขูดมดลูกที่องค์การอนามัยขอให้ยกเลิกนานแล้วแต่ ก็ยังพบว่าบ้านเรายังใช้วิธีนี้อยู่ ซึ่งความจริงแล้ว วิธีการยุติการตั้งครรภ์มี 2 วิธีคือ การใช้ยา และการใช้เครื่องดูด ซึ่งเป็นการยุติการตั้งครรภ์ที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ กฎหมายอนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่ในทางปฏิบัติน้อยมาก มีผู้หญิงที่ถูกขมขื่นหลายรายได้รับการอนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ เมื่อให้กำเนิดบุตรไปแล้ว ซึ่งกรณีลักษณะนี้ส่งผลเสียระยะยาวต่อสภาพจิตใจของผู้หญิงและการเลี้ยงดูบุตรเป็นอย่างมาก

การขับเคลื่อนขององค์กรสตรีในประเทศไทย พยายามผลักดันการให้บริการปรึกษาทางเลือกสำหรับผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม ทางสายด่วนศูนย์ประชาบดี 1300 ซึ่ง เมื่อรับเรื่องแล้วในกรณีที่จำเป็นต้องดำเนินการต่อเนื่องจะเป็นผู้ประสานส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในเครือข่ายทั่วประเทศ ส่วนการยุติการตั้งครรภ์ก็จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ประมวลกฎหมายอาญา และข้อบังคับแพทยสภา 6 ข้อ คือ 1 ผู้หญิงที่มีปัญหาทางสุขภาพกาย 2 ผู้หญิงที่มีปัญหาทางสุขภาพใจ 3 กรณีตัวอ่อนในครรภ์มีความผิดปกติ 4 ผู้หญิงที่ถูกข่มขืน 5 ผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ 6 ผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี” นางทัศนัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น