ครม.สั่งทุกหน่วยงานหนุนโครงการงดดื่มสุราแห่งชาติ ทำดีถวายในหลวง “ยิ่งลักษณ์” เตรียมนำลงนามปฏิญาณงดดริงก์ 17 ก.ค.นี้ ยาว 3 เดือนตลอดการเข้าพรรษา หวังส่งเสริมคนไทยงดลดละการดื่ม หลังสำรวจพบคนไทยดื่มสุรา 17 ล้านคน โดย 46,000 คน ฝ่าฝืนดื่มในที่ห้ามดื่ม
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ รัชดาฯ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรณรงค์ให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2556 ว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2551 กำหนดให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 23 ก.ค. 2556 ซึ่ง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ประกาศให้เทศกาลเข้าพรรษา 3 เดือน เป็นช่วงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้ทุกส่วนราชการและสถานประกอบการสนับสนุนกิจกรรม “โครงการรณรงค์งดดื่มสุราแห่งชาติ 2556” ภายใต้แนวคิดทำความดีถวายในหลวง รวมถึงให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดจัดพิธีลงนามปฏิญาณตนงดดื่มสุราช่วงเข้าพรรษา ประชาสัมพันธ์โทษและผลกระทบจากการดื่ม
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยถือว่าน่าเป็นห่วง โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานผลสำรวจล่าสุดปี 2554 พบคนอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ดื่มสุรามากถึง 17 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของประชากร และยังมีการกระทำผิดร่วมระหว่างผู้ขายกับผู้ดื่ม โดยพบว่านักดื่มประมาณ 30,000 คน ซื้อสุรามาจากพื้นที่ห้ามขายตามกฎหมาย และมีนักดื่มประมาณ 46,000 คน ดื่มสุราในพื้นที่ห้ามดื่ม จึงต้องเพิ่มการกวดขันทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 17 ก.ค. เวลา 13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานลงนามร่วมปฏิญาณงดดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษาอย่างเป็นทางการที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ โดย สธ.จะส่งสมุดลงนามปฏิญาณตนทำความดีแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปให้ทุกจังหวัดเพื่อให้ประชาชนลงนามพร้อมกันทั่วประเทศ
ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า รายงานของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ล่าสุด ปี 2556 พบว่า นักดื่มเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 5 เท่าตัว โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 15-24 ปี พบว่าดื่มสุราเกือบ 2.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 15 ของนักดื่มทั้งหมด โดยเฉลี่ยผู้ชายเริ่มดื่มเมื่ออายุ 19 ปี ผู้หญิงเฉลี่ย 24 ปี โดยคนรุ่นหลังเริ่มดื่มเร็วกว่าคนรุ่นเก่า ปัจจุบันพบว่ามีผู้ดื่มสุราเป็นประจำ 7.5 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 20 หรือประมาณ 2 ล้านคน อยู่ในขั้นติดเหล้าต้องดื่มทุกวัน หรือเกือบทุกวัน โดยปริมาณการดื่มเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 37 ลิตรต่อคนปี ในปี 2540 เป็น 52 ลิตร ในปี 2554 สถานที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด ร้านขายของชำ เฉลี่ยค่าดื่มเดือนละ 500 บาท มี 1 ใน 3 ที่ดื่มฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย อาชีพที่ดื่มสุรามากที่สุดคือ อาชีพช่างฝีมือ รองลงมาคือ เกษตรกร ประมง ภาคเหนือมีอัตราการดื่มสูงที่สุดในประเทศเฉลี่ยร้อยละ 39 รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 37 ภาคกลาง ร้อยละ 28 กทม.ร้อยละ 23 และภาคใต้ ร้อยละ 19
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ รัชดาฯ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรณรงค์ให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2556 ว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2551 กำหนดให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 23 ก.ค. 2556 ซึ่ง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ประกาศให้เทศกาลเข้าพรรษา 3 เดือน เป็นช่วงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้ทุกส่วนราชการและสถานประกอบการสนับสนุนกิจกรรม “โครงการรณรงค์งดดื่มสุราแห่งชาติ 2556” ภายใต้แนวคิดทำความดีถวายในหลวง รวมถึงให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดจัดพิธีลงนามปฏิญาณตนงดดื่มสุราช่วงเข้าพรรษา ประชาสัมพันธ์โทษและผลกระทบจากการดื่ม
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยถือว่าน่าเป็นห่วง โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานผลสำรวจล่าสุดปี 2554 พบคนอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ดื่มสุรามากถึง 17 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของประชากร และยังมีการกระทำผิดร่วมระหว่างผู้ขายกับผู้ดื่ม โดยพบว่านักดื่มประมาณ 30,000 คน ซื้อสุรามาจากพื้นที่ห้ามขายตามกฎหมาย และมีนักดื่มประมาณ 46,000 คน ดื่มสุราในพื้นที่ห้ามดื่ม จึงต้องเพิ่มการกวดขันทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 17 ก.ค. เวลา 13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานลงนามร่วมปฏิญาณงดดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษาอย่างเป็นทางการที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ โดย สธ.จะส่งสมุดลงนามปฏิญาณตนทำความดีแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปให้ทุกจังหวัดเพื่อให้ประชาชนลงนามพร้อมกันทั่วประเทศ
ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า รายงานของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ล่าสุด ปี 2556 พบว่า นักดื่มเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 5 เท่าตัว โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 15-24 ปี พบว่าดื่มสุราเกือบ 2.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 15 ของนักดื่มทั้งหมด โดยเฉลี่ยผู้ชายเริ่มดื่มเมื่ออายุ 19 ปี ผู้หญิงเฉลี่ย 24 ปี โดยคนรุ่นหลังเริ่มดื่มเร็วกว่าคนรุ่นเก่า ปัจจุบันพบว่ามีผู้ดื่มสุราเป็นประจำ 7.5 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 20 หรือประมาณ 2 ล้านคน อยู่ในขั้นติดเหล้าต้องดื่มทุกวัน หรือเกือบทุกวัน โดยปริมาณการดื่มเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 37 ลิตรต่อคนปี ในปี 2540 เป็น 52 ลิตร ในปี 2554 สถานที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด ร้านขายของชำ เฉลี่ยค่าดื่มเดือนละ 500 บาท มี 1 ใน 3 ที่ดื่มฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย อาชีพที่ดื่มสุรามากที่สุดคือ อาชีพช่างฝีมือ รองลงมาคือ เกษตรกร ประมง ภาคเหนือมีอัตราการดื่มสูงที่สุดในประเทศเฉลี่ยร้อยละ 39 รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 37 ภาคกลาง ร้อยละ 28 กทม.ร้อยละ 23 และภาคใต้ ร้อยละ 19
