xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.วุฒิฯ เล็งนำรายได้จาก “ลอตเตอรี” หนุนภาคประชาสังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
กมธ.วุฒิฯ ศึกษาปัญหา “ลอตเตอรี” เสนอนำเงินรายได้กองสลากอุดหนุนกองทุนภาคประชาสังคม ลุยรื้อโครงสร้างสำนักงานสลากฯ สางปัญหาขายเกินราคา-ตัดวงจรนายหน้า-โควตาไม่เป็นธรรม เลิก “กินแบ่ง” กอบโกยรายได้เข้ารัฐ สกัดเด็กต่ำกว่า 18 ซื้อขายหวย ตัดตอนพนัน



วันนี้ (5 ก.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการสลากในประเทศไทย ของวุฒิสภา จัดสัมมนา เรื่อง “นับหนึ่ง…ปฏิรูปสลากเพื่อสังคมไทย” เพื่อรับฟังความคิดเห็น รวบรวมข้อมูล และข้อเสนอแนะต่อร่างรายงานผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ จากผู้แทนภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังและเสนอความเห็น จากตัวแทนภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย ประมาณ 150 คน

นายมณเฑียร บุญตัน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวว่า วัตถุประสงค์การจัดเวทีครั้งนี้ เพื่อหาแนวทางจัดสรรงบรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลมาพัฒนาทำงานด้านสังคม เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่เป็นเงินที่มาจากผู้ที่มีรายได้น้อย แต่กลับถูกจัดสรรเงินรายได้เข้ารัฐในระบบงบประมาณปกติ ประกอบกับการจำหน่ายสลากมีปัญหามากมาย ทั้งระบบการจัดสรรโควตาสลาก และการจำหน่ายสลากเกินราคา จึงเป็นที่มาการตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญฯ ชุดนี้ เพื่อศึกษาปัญหาดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ดังนั้น เวทีครั้งนี้เพื่อนำเสนอผลการศึกษาต่อสาธารณะ และเปิดการรรับฟังจากผู้แทนทุกภาคส่วนของสังคม และระดมความเห็น เพื่อจัดทำรายงานผลการพิจารณาให้สมบูรณ์ก่อนนำเสนอที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาก่อนนำเสนอรัฐบาลต่อไป

ด้านรศ.นวลน้อย ตรีรัตน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญ และอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูประบบการบริหารจัดการสลากของรัฐ กล่าวในเวทีเสวนาว่า สำหรับผลการศึกษาและข้อเสนอของคณะกรรมาธิการ เห็นว่าควรปฏิรูประบบบริหารจัดการทั้งระบบ เพื่อให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ในเรื่องปรัชญาการออกสลาก เกณฑ์การจัดสรรรายได้ มีการตั้งกองทุนสลากเพื่อสังคม ภายใต้กฎหมายใหม่ว่าด้วยกิจการสลากเพื่อสังคม โดยมีหลักการเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างชัดเจน คุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้เกิดการจัดการตามหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพและความเป็นธรรม ส่วนแนวทางการปฏิรูประบบบริหารการจัดการสลาก มี 4 แนวทาง คือ 1.มีเป้าหมาย “สลากเพื่อสังคม” 2.ปฏิรูปโครงสร้างการบริหารจัดการสลากตามหลักธรรมาภิบาล 3.เพื่อให้เกิดการคุ้มครองผู้บริโภค มีความเป็นธรรม และ 4.มีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดปัญหาการพนันสลาก โดยห้ามจัดกิจกรรมการส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ และห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่เป็นทั้งผู้ซื้อและจำหน่าย

“วิธีการจัดสรรสลากแบบโควตา ทำให้เกิดการผูกขาดโดยพ่อค้าคนกลาง และสลากจำนวนหนึ่งที่ขายไม่หมด ทำให้ต้องขายสลากราคาแพงขึ้นประมาณร้อยละ 20 จากราคาจริง 80 บาท และการเปิดเผยข้อมูลจากกองสลากมีจำกัด ทำให้คนรู้สึกว่าหวยล็อก” รศ.นวลน้อย กล่าว

พญ.วัชรา ริ้วไพบูลย์ กรรมาธิการวิสามัญ และรองประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดสรรเงินจากการจำหน่ายสลากของรัฐ เพื่อพัฒนาสังคม และลด ละ เลิกพนัน กล่าวว่า การจัดสรรปรับเปลี่ยนสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสลาก คือ 60% เป็นเงินรางวัลเหมือนเดิม ที่เหลืออีก 40% นำส่งรัฐในรูปแบบภาษี 10% อีก 15% เป็นการลดความเสี่ยง การช่วยเหลือ จัดสวัสดิการให้ผู้ค้ารายย่อย และทำโครงการลด ละ เลิก และลดผลกระทบที่เกิดจากปัญหาการพนัน และที่สำคัญที่สุด 15% ประมาณ 7,200 ล้านบาทต่อปี ควรนำไปจัดสรรเข้ากองทุนสลากเพื่อสังคม โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.สนับสนุน “กองทุนสนับสนุนการพัฒนาภาคประชาสังคม” 30% 2.พัฒนากองทุนในความรับผิดชอบของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 35% เช่น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนผู้สูงอายุ และ 3.พัฒนากองทุนตามกฎหมายอื่นภายใต้กระทรวงอื่นๆ 30%

“ควรมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการเป็น 3 ส่วน คือ 1.คณะกรรมการกำกับกิจการสลาก 2.คณะกรรมการบริหารกิจกามสลาก (เดิม) และ 3.คณะกรรมการบริการกองทุน ซึ่งถ้าไม่ปรับโครงสร้างใหม่ ปัญหาความคลางแคลงในการบริหารจัดการ การผลิตสลาก การจัดสรรโควตา ราคาสลากที่สูงขึ้นเรื่อยๆ การเสนอทางออกครั้งนี้ เงินรายได้ส่วนหนึ่งนอกจากจะนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตแล้ว ยังมีโครงการรณรงค์ลด ละ เลิกพนัน และลดผลกระทบจากการเล่นพนัน เหมือนกับเรื่องเหล้าและบุหรี่” พญ.วัชรา กล่าว

ด้านนายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวช่วงรับฟังความเห็นว่า ตนรังเกียจการเอาเงินที่ควรสนบสนุนการกุศลไปใช้ในการหาเสียง ถือเป็นการทำเงินการกุศล ไปใช้ในทางสกปรก ในขณะที่ปัญหาเรื่องการค้าสลากเกินราคาก็เป็นเรื่องที่พูดกันมานาน แต่ก็ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความผิดของรัฐบาล ที่ยังปล่อยให้มีการขายเกินราคา ถือว่ารัฐบาลไม่มีความรับผิดชอบ เพราะปล่อยให้มีการละเมิดกฎหมาย ดังนั้น เราไม่ควรไว้ใจรัฐบาลนี้ให้แก้ปัญหาอื่นๆ เพราะปัญหาแค่นี้ยังแก้ไม่ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น