“หมอประดิษฐ” สั่ง สสจ.ทั่วประเทศคุมไข้เลือดออกและมือเท้าปาก หลังพบป่วยเพิ่มขึ้นทั้ง 2 โรค หากอาการคล้ายไข้เลือดออกให้รีบพบแพทย์ทันที ส่วนเด็กเล็กให้ตรวจไข้และตุ่มตามมือเท้าปากทุกเช้า หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่เร่งคุมโรค
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.เร่งดำเนินการควบคุมป้องกัน 2 โรค คือ โรคไข้เลือดออกและโรคมือเท้าปาก โดยสถานการณ์ล่าสุด พบผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 5,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและนักเรียน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนโรคมือเท้าปากพบผู้ป่วยสะสม 16,112 ราย ร้อยละ 93 อายุต่ำกว่า 5 ขวบ ยังไม่มีเสียชีวิต ทั้งนี้ สำหรับโรคไข้เลือดออกได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเร่งเผยแพร่ความรู้ประชาชน และทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม กำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน และให้โรงพยาบาลทุกแห่งและกรมการแพทย์อบรมฟื้นฟูความรู้และแนวทางตรวจวินิจฉัย การรักษา โดยเฉพาะแพทย์จบใหม่ แพทย์รักษาผู้ใหญ่และเด็ก หากพบผู้ป่วยอาการอยู่ในข่ายสงสัยคือ ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส ไม่มีอาการไอ ให้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล เข้าสู่ระบบคัดกรองไข้เลือดออก และให้นอนโรงพยาบาลนานขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย หากเป็นไข้เลือดออกให้ส่งทีมสวนสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงควบคุมโรคที่บ้านเด็กหรือโรงเรียนป้องกันการแพร่ระบาด หากผู้ป่วยไข้ลดลงแต่อาการแย่ลงกินอาหารไม่ได้ ไม่ร่าเริง ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการช็อก หรือเลือดออกภายใน
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า สำหรับโรคมือเท้าปากพบว่าแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์ไม่รุนแรง จำนวนผู้ป่วยในภาพรวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ได้กำชับให้ สสจ.ทุกแห่งเฝ้าระวังป้องกัน โดยเฉพาะศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล เนื่องจากมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก และให้อบรมฟื้นฟูความรู้แก่ครูในโรงเรียนทุกแห่ง เพื่อร่วมเฝ้าระวังและตรวจจับโรค พร้อมแจกเอกสารความรู้โรคมือเท้าปากให้ผู้ปกครองทุกคน รวมทั้งให้โรงเรียนล้างทำความสะอาดฆ่าเชื้อเครื่องเล่น ของใช้ของเด็กทุกวัน ที่สำคัญให้เพิ่มการตรวจไข้และดูตุ่มที่มือ เท้า ปากของเด็กทุกเช้า หากพบให้แยกเด็กและให้ผู้ปกครองรับตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดทันที กรณีมีเด็กขาดเรียนเกิน 3 วันให้ครูประสานผู้ปกครองเพื่อสอบถามอาการและสาเหตุการหยุดเรียน หากพบว่าเป็นโรคมือเท้าปากให้ดำเนินการควบคุมโรคในโรงเรียนตามมาตรการของ สธ.
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.เร่งดำเนินการควบคุมป้องกัน 2 โรค คือ โรคไข้เลือดออกและโรคมือเท้าปาก โดยสถานการณ์ล่าสุด พบผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 5,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและนักเรียน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนโรคมือเท้าปากพบผู้ป่วยสะสม 16,112 ราย ร้อยละ 93 อายุต่ำกว่า 5 ขวบ ยังไม่มีเสียชีวิต ทั้งนี้ สำหรับโรคไข้เลือดออกได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเร่งเผยแพร่ความรู้ประชาชน และทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม กำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน และให้โรงพยาบาลทุกแห่งและกรมการแพทย์อบรมฟื้นฟูความรู้และแนวทางตรวจวินิจฉัย การรักษา โดยเฉพาะแพทย์จบใหม่ แพทย์รักษาผู้ใหญ่และเด็ก หากพบผู้ป่วยอาการอยู่ในข่ายสงสัยคือ ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส ไม่มีอาการไอ ให้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล เข้าสู่ระบบคัดกรองไข้เลือดออก และให้นอนโรงพยาบาลนานขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย หากเป็นไข้เลือดออกให้ส่งทีมสวนสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงควบคุมโรคที่บ้านเด็กหรือโรงเรียนป้องกันการแพร่ระบาด หากผู้ป่วยไข้ลดลงแต่อาการแย่ลงกินอาหารไม่ได้ ไม่ร่าเริง ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการช็อก หรือเลือดออกภายใน
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า สำหรับโรคมือเท้าปากพบว่าแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์ไม่รุนแรง จำนวนผู้ป่วยในภาพรวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ได้กำชับให้ สสจ.ทุกแห่งเฝ้าระวังป้องกัน โดยเฉพาะศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล เนื่องจากมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก และให้อบรมฟื้นฟูความรู้แก่ครูในโรงเรียนทุกแห่ง เพื่อร่วมเฝ้าระวังและตรวจจับโรค พร้อมแจกเอกสารความรู้โรคมือเท้าปากให้ผู้ปกครองทุกคน รวมทั้งให้โรงเรียนล้างทำความสะอาดฆ่าเชื้อเครื่องเล่น ของใช้ของเด็กทุกวัน ที่สำคัญให้เพิ่มการตรวจไข้และดูตุ่มที่มือ เท้า ปากของเด็กทุกเช้า หากพบให้แยกเด็กและให้ผู้ปกครองรับตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดทันที กรณีมีเด็กขาดเรียนเกิน 3 วันให้ครูประสานผู้ปกครองเพื่อสอบถามอาการและสาเหตุการหยุดเรียน หากพบว่าเป็นโรคมือเท้าปากให้ดำเนินการควบคุมโรคในโรงเรียนตามมาตรการของ สธ.