สธ.จับเจ้าหน้าที่ติวเข้มควบคุมเหล้า เน้นตรวจจับ ปรับจริง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกราย เผย 5 เดือนแรก เฝ้าระวังตรวจเตือนได้ 1,011 ราย
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่โรงแรมราชาคีรีฯ จ.นครศรีธรรมราช นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย ตกประมาณ 13.49 ลิตร/คน/ปี ผู้ดื่มวัยรุ่นนิยมดื่มสุราชนิดใหม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีผู้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการดื่มสุราสูงขึ้น เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งร้อยละ 70 เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้นำความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงสุขภาพด้วย เพื่อลดปัญหาดังกล่าว ประเทศไทยได้มีการดำเนินการ ดังนี้ 1.ได้กำหนดห้ามขายสุราแก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 2.กำหนดวันและเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ขายได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น.และ 17.00-24.00 น. 3.ห้ามขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม และ 4.ห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาดและส่งเสริมการขาย เป็นต้น
นพ.สมาน กล่าวอีกว่า ภายหลังจากการอบรมในครั้งนี้ จะมีการดำเนินการร่วมกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชน และที่ผ่านมาได้ดำเนินการตรวจจับในหลายพื้นที่ พบการกระทำผิดหลายข้อหา เช่น เปิดสถานบริการเกินเวลา การขายโดยการลดราคา ลด แลก แจก แถม และโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในหอพัก ขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นต้น
“จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. 2556 มีการเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ ตรวจเตือน ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 1,011 ราย แยกเป็นการเฝ้าระวัง 702 ราย และการบังคับใช้กฎหมาย 309 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับเจ้าของร้านและแจ้งให้เจ้าของร้านปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน หากเจ้าหน้าที่กลับมาตรวจซ้ำ แล้วพบว่าไม่มีการปรับปรุงแก้ไขก็จะมีการจับกุมเปรียบเทียบปรับในอัตราขั้นสูงต่อไป” นพ.สมาน กล่าว
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่โรงแรมราชาคีรีฯ จ.นครศรีธรรมราช นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย ตกประมาณ 13.49 ลิตร/คน/ปี ผู้ดื่มวัยรุ่นนิยมดื่มสุราชนิดใหม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีผู้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการดื่มสุราสูงขึ้น เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งร้อยละ 70 เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้นำความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงสุขภาพด้วย เพื่อลดปัญหาดังกล่าว ประเทศไทยได้มีการดำเนินการ ดังนี้ 1.ได้กำหนดห้ามขายสุราแก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 2.กำหนดวันและเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ขายได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น.และ 17.00-24.00 น. 3.ห้ามขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม และ 4.ห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาดและส่งเสริมการขาย เป็นต้น
นพ.สมาน กล่าวอีกว่า ภายหลังจากการอบรมในครั้งนี้ จะมีการดำเนินการร่วมกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชน และที่ผ่านมาได้ดำเนินการตรวจจับในหลายพื้นที่ พบการกระทำผิดหลายข้อหา เช่น เปิดสถานบริการเกินเวลา การขายโดยการลดราคา ลด แลก แจก แถม และโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในหอพัก ขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นต้น
“จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. 2556 มีการเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ ตรวจเตือน ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 1,011 ราย แยกเป็นการเฝ้าระวัง 702 ราย และการบังคับใช้กฎหมาย 309 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับเจ้าของร้านและแจ้งให้เจ้าของร้านปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน หากเจ้าหน้าที่กลับมาตรวจซ้ำ แล้วพบว่าไม่มีการปรับปรุงแก้ไขก็จะมีการจับกุมเปรียบเทียบปรับในอัตราขั้นสูงต่อไป” นพ.สมาน กล่าว
