กรมควบคุมโรค จัดอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเหล้าภาคเหนือและอีสาน เน้นตรวจจับดำเนินคดีทุกราย ล่าสุดเตรียมหารือ กลาโหม ป.ป.ช.และ สตช.ดำเนินคดีทหารใหญ่ปล่อยให้ทำผิดกฎหมายคุมสุราในค่ายทหาร
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่โรงแรมพลูแมน จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์คิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ว่า พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อที่จะช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ครอบครัว และอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมถึงการกำหนดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ มาตรการกำหนดสถานที่ หรือบริเวณในการห้ามจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรการกำหนดลักษณะและวิธีการที่ต้องห้ามในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมาตรการในการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่าด้วยรูปแบบและวิธีการแสดงข้อความคำเตือนประกอบภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือภาพสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2553 ที่ออกตามความในกฎกระทรวง
นอกจากนี้ จังหวัดขอนแก่นได้ตระหนักถึงปัญหาและความสำคัญของผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจังหวัดขอนแก่นได้มีการวางนโยบายและขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม และเกิดผลที่ปรากฏเด่นชัด อาทิ การจัดเขตเล่นน้ำสงกรานต์ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณถนนข้าวเหนียว และการดำเนินงานจัดระเบียบสังคม เป็นต้น สำหรับการประชุมพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ดีที่ควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีศักยภาพและมีสมรรถนะที่พร้อมปฏิบัติงานนั้น ย่อมส่งผลเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น และการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้สมดังเจตนารมณ์ของกฎหมายและเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยรวม
ด้านนายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย โดยมีปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 13.49 ลิตร/คน/ปี ผู้ดื่มวัยรุ่นนิยมดื่มสุราชนิดใหม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีผู้ป่วยที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับการดื่มสุรามีจำนวนสูงขึ้น และผลกระทบที่เห็นอย่างเด่นชัด คือ การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งร้อยละ 70 เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้นำความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงสุขภาพด้วย เพื่อลดปัญหาดังกล่าวประเทศไทยได้มีการดำเนินการ ดังนี้ 1.ได้กำหนดห้ามขายสุราแก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 2.กำหนดวันและเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ขายได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น.และ 17.00-24.00 น.3.ห้ามขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม 4.ห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาดและส่งเสริมการขาย เป็นต้น
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555-15 มีนาคม 2556 มีการเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ ตรวจเตือน ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 2,505 ราย และมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจจับ กล่าวโทษดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 232 ราย ล่าสุดมีการร้องเรียนมาจากภาคประชาชนทางภาคเหนือว่ามีการอนุญาตให้มีการขาย และโฆษณาสื่อสารการตลาดเบียร์ ผ่านการทำมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ณ ค่ายทหารแห่งหนึ่ง พร้อมภาพถ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งทางกรมจะเชิญประชุมผู้เชี่ยวชาญ ถ้ามีมติชัดเจนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย จะมีการหารือกับทางกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อดำเนินการต่อไป
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่โรงแรมพลูแมน จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์คิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ว่า พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อที่จะช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ครอบครัว และอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมถึงการกำหนดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ มาตรการกำหนดสถานที่ หรือบริเวณในการห้ามจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรการกำหนดลักษณะและวิธีการที่ต้องห้ามในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมาตรการในการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่าด้วยรูปแบบและวิธีการแสดงข้อความคำเตือนประกอบภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือภาพสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2553 ที่ออกตามความในกฎกระทรวง
นอกจากนี้ จังหวัดขอนแก่นได้ตระหนักถึงปัญหาและความสำคัญของผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจังหวัดขอนแก่นได้มีการวางนโยบายและขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม และเกิดผลที่ปรากฏเด่นชัด อาทิ การจัดเขตเล่นน้ำสงกรานต์ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณถนนข้าวเหนียว และการดำเนินงานจัดระเบียบสังคม เป็นต้น สำหรับการประชุมพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ดีที่ควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีศักยภาพและมีสมรรถนะที่พร้อมปฏิบัติงานนั้น ย่อมส่งผลเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น และการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้สมดังเจตนารมณ์ของกฎหมายและเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยรวม
ด้านนายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย โดยมีปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 13.49 ลิตร/คน/ปี ผู้ดื่มวัยรุ่นนิยมดื่มสุราชนิดใหม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีผู้ป่วยที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับการดื่มสุรามีจำนวนสูงขึ้น และผลกระทบที่เห็นอย่างเด่นชัด คือ การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งร้อยละ 70 เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้นำความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงสุขภาพด้วย เพื่อลดปัญหาดังกล่าวประเทศไทยได้มีการดำเนินการ ดังนี้ 1.ได้กำหนดห้ามขายสุราแก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 2.กำหนดวันและเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ขายได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น.และ 17.00-24.00 น.3.ห้ามขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม 4.ห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาดและส่งเสริมการขาย เป็นต้น
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555-15 มีนาคม 2556 มีการเฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ ตรวจเตือน ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 2,505 ราย และมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจจับ กล่าวโทษดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 232 ราย ล่าสุดมีการร้องเรียนมาจากภาคประชาชนทางภาคเหนือว่ามีการอนุญาตให้มีการขาย และโฆษณาสื่อสารการตลาดเบียร์ ผ่านการทำมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ณ ค่ายทหารแห่งหนึ่ง พร้อมภาพถ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งทางกรมจะเชิญประชุมผู้เชี่ยวชาญ ถ้ามีมติชัดเจนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย จะมีการหารือกับทางกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อดำเนินการต่อไป