นราธิวาส - นายอำเภอสุไหงโก-ลก ห่วงสภาพปัญหาสังคมในพื้นที่ โดยเฉพาะยาเสพติด และแหล่งอบายมุข ทำให้เด็กและเยาวชนถูกชักจูงให้หลงผิดได้ง่าย จึงกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด
วันนี้ (9 ม.ค.) นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ห่วงสภาพปัญหาสังคมในพื้นที่ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ ซึ่งพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกพบปัญหาเรื่องของการแพร่ระบาดของยาเสพติด และแหล่งอบายมุข รวมถึงการฝ่าฝืนกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ค่อนข้างมาก จึงถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะอาจถูกชักจูงให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายจนทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอีกมาก
ดังนั้น จึงขอฝากให้ผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่เพียงฝากไว้ให้เป็นความรับผิดชอบของครูขณะอยู่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ผู้ปกครองต้องให้ความสนใจในการสอบถามถึงพฤติกรรมของเด็กว่าเมื่ออยู่ในโรงเรียนเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน เมื่อออกมาจากรั้วโรงเรียน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้ปกครองก็จำเป็นที่จะต้องติดตามพฤติกรรมของเด็กอย่างต่อเนื่องว่ามีแนวโน้มต่อการประพฤติตนไปในทางที่ไม่เหมาะสมบ้างหรือไม่ เพื่อให้สามารถหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันก่อนที่จะสายเกินไป
ส่วนในภาพรวมของอำเภอสุไหงโก-ลก ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดเพื่อจัดระเบียบสังคม โดยติดตาม ตรวจสอบ และสุ่มตรวจการเข้าไปมั่วสุมของเด็กและเยาวชนตามสถานบันเทิง โรงแรม ร้านคาราโอเกะ และร้านเกม พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการไม่นำเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาทำงาน และไม่อนุญาตให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ
วันนี้ (9 ม.ค.) นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ห่วงสภาพปัญหาสังคมในพื้นที่ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ ซึ่งพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกพบปัญหาเรื่องของการแพร่ระบาดของยาเสพติด และแหล่งอบายมุข รวมถึงการฝ่าฝืนกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ค่อนข้างมาก จึงถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพราะอาจถูกชักจูงให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายจนทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอีกมาก
ดังนั้น จึงขอฝากให้ผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่เพียงฝากไว้ให้เป็นความรับผิดชอบของครูขณะอยู่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ผู้ปกครองต้องให้ความสนใจในการสอบถามถึงพฤติกรรมของเด็กว่าเมื่ออยู่ในโรงเรียนเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน เมื่อออกมาจากรั้วโรงเรียน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้ปกครองก็จำเป็นที่จะต้องติดตามพฤติกรรมของเด็กอย่างต่อเนื่องว่ามีแนวโน้มต่อการประพฤติตนไปในทางที่ไม่เหมาะสมบ้างหรือไม่ เพื่อให้สามารถหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันก่อนที่จะสายเกินไป
ส่วนในภาพรวมของอำเภอสุไหงโก-ลก ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดเพื่อจัดระเบียบสังคม โดยติดตาม ตรวจสอบ และสุ่มตรวจการเข้าไปมั่วสุมของเด็กและเยาวชนตามสถานบันเทิง โรงแรม ร้านคาราโอเกะ และร้านเกม พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการไม่นำเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาทำงาน และไม่อนุญาตให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ
