xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นแหล่งเลี้ยงควายใหญ่ที่สุดในไทยถูกทำลาย ชาวบ้านเร่งต้านเอกชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวเวียงหนองหล่มรวมตัวหว่านข้าวยึดที่ดินสาธารณะกว่าร้อยไร่คืนจากนายทุน “ปลอดประสพ” โผล่แจกงบ 47 ล้าน ชาวบ้านหวั่นสูญพื้นที่ชุ่มน้ำมรดกเก่าแก่ ห่วงแหล่งเลี้ยงควายใหญ่สุดในประเทศถูกทำลาย-คนท้องถิ่นร่วมกันหาแนวทางอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นายดุสิต จิตรสุข ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรลุ่มน้ำกก เปิดเผยว่า เมื่อไม่กี่วันก่อน ชาวบ้าน ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันหว่านข้าวเปลือกพร้อมๆ กันบนพื้นที่สาธารณประโยชน์เวียงหนองหล่ม ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวกว่า 100 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่รวมทั้งบนบกในบึงเชียงแสน และลุ่มน้ำราว 34,000 ไร่ เพื่อเรียกร้องให้สังคมรับรู้ว่า ชาวเวียงหนองหล่มมีสิทธิในพื้นที่สาธารณะดังกล่าว หลังจากถูกบริษัทเอกชนบุกรุกนำที่ดินสาธารณะไปปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา ไร่สับปะรด แถมเอกชนยังพยายามออกจดหมายและหนังสือให้เกษตรกร เลิกบุกรุกโดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
ปางควาย ต.จันจว้า
ที่ดินกว่า 100 ไร่ที่ชาวบ้านรวมตัวกันทวงคืนนี้ พวกเราเชื่อว่ามีการออกเอกสารสิทธิปลอม เกิดจากผู้มีอิทธิพลทั้งจากรัฐและเอกชน พยายามจะครอบครอง แล้วปล่อยให้เกษตรกรเช่ารายปี แต่เมื่อทุกคนเริ่มรู้ตัว จึงได้มีการเคลื่อนไหว เพราะชาวบ้านไม่ต้องการให้มีการครอบครองที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม หากยังมีการคุกคามจากฝ่ายทุนต่อเนื่อง และผลพิสูจน์ว่า ชาวบ้านมีความผิดตามบริษัทเอกชนกล่าวอ้างจริง ทุกคนยินดีถูกดำเนินคดี เพราะมั่นใจว่าเอกสารสิทธิของเอกชนรายใหญ่นั้นไม่ใช่ของจริง พวกเราจึงได้รวมตัวกันเพื่อทวงสิทธิกลับคืน ชาวบ้านอยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการชุมชน เพื่อประสานงานกับสำนักงานที่ดินแม่จัน เพื่อให้ตรวจข้อเท็จจริง ว่าเป็นที่สาธารณะ หรือที่เอกชนกันแน่ ” นายดุสิต กล่าว

นายดุสิต กล่าวว่า นอกจากข้อกังวลเรื่องของปัญหาที่ดินทำกิน ในพื้นที่สาธารณะแล้ว เรื่องของการบริหารพื้นที่ชุ่มน้ำเวียงหนองหล่ม ยังประสบปัญหาเรื่องการขุดลอกหนองน้ำผ่าที่ดินทำกินของเกษตรกรในพื้นที่อีกหลายไร่ ประกอบกับข่าวเรื่องแผนการจัดการน้ำของรัฐบาลด้วยแล้ว ชาวเวียงหนองหล่มเริ่มกังวลกับการสูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำเก่าแก่มากขึ้น โดยเมื่อประมาณวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบเห็นขบวนรถของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ราว 30 คัน ลงสำรวจพื้นที่เวียงหนองหล่มด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากคณะกรรมการการจัดการน้ำในชุมชน ทราบว่า จะมีการกระจายงบประมาณบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านของรัฐบาล ให้แก่พื้นที่เวียงหนองหล่มประมาณ 47 ล้านบาท ขณะที่เวียงหนองหล่มบางส่วนยังคงมีการขุดลอก สร้างคันกักเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การบริหารส่วนตำบบล (อบต.) โยนก และจันจว้า ซึ่งชาวบ้านกังวลว่า จะเป็นการทำลายทรัพยากรน้ำที่สำคัญได้

ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรลุ่มน้ำกก กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องปางควาย ในเวียงหนองหล่ม ต้องประสบปัญหา เรื่องการกินพืชปนเปื้อนสารเคมีจากพืชไร่ในสวนเกษตรที่ดำเนินการโดยเอกชน รวมทั้งขาดแคลนอาหารเนื่องจากโครงการขุดลอกหนองน้ำจากภาครัฐได้ทำลายแหล่งหญ้าที่เป็นอาหาร ส่งผลต่อจำนวนควายลดลงอย่างน่ากังวล อย่าไรก็ตามขณะนี้ชาวเวียงหนองหล่มเริ่มมองเห็นแนวทางการอนุรักษ์ควายในพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยการวางแผนพัฒนาศักยภาพควายให้มีมากกว่าเดิม ทั้งเรื่องการฝึกควายให้ไถนา การทำปุ๋ยชีวภาพจากมูลควาย เป็นต้น ทั้งนี้คาดว่า การดำเนินการดังกล่าว จะช่วยอนุรักษ์พื้นที่ปางควายที่ใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทยไว้ได้แล้ว เชื่อว่าอาจทำให้นายทุนจะยอมจำนนต่อความเข้มแข็งของคนท้องถิ่น

อนึ่งพื้นที่เวียงหนองหล่มตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่าง ต.จันจว้า ต.จันจว้าใต้, ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน และ ต.โยนก อ.เชียงแสน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 34,000 ไร่ลักษณะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำชั้น A มีความหลากหลายทางชีวภาพ และสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น ปลา นก และพืชต่างๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น