xs
xsm
sm
md
lg

ดูจะจะ!! พบประตูเฮลิคอปเตอร์ติดภาพ ชื่อหลวงปู่เณรคำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรรมการ มส.ปรามวัดเป็นแหล่งพุทธพาณิชย์ ด้าน พศ.เร่งตรวจสอบฐานะหลวงปู่ชื่อดัง ที่ไปที่มาเงินบริจาค-ภาพเหมือนสงฆ์นอนกับผู้หญิง หากเป็นจริง ถือว่าทำผิดพระธรรมวินัย มีโทษถึงขั้น “ให้สึก” พบบริเวณประตูเฮลิคอปเตอร์ติดภาพและชื่อหลวงปู่เณรคำ

วันนี้ (18 มิ.ย.) สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับพระนั่งเครื่องบินเจ็ตและสะสมรถหรูว่า ต้องไปศึกษาว่าเป็นเครื่องบินของพระหรือโยม ซึ่งต้องตรวจสอบให้ดี แต่ถ้าดูเกินฐานะความเป็นพระก็ดูไม่ดี ซึ่งเรื่องการสำรวมหรือสังวร มีอยู่ในพระวินัยอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในปัจจุบันสังคมเจริญในเรื่องวัตถุมากขึ้นจึงไหลเข้ายังวัด อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ความเป็นพระต้องอยู่ในความพอดี ดังนั้น พระเมื่อเห็นว่า ของที่ถวายเกินความพอดีของพระ เช่น รถหรู ก็สามารถปฏิเสธได้ สำหรับประชาชนมองว่าทุกวันนี้ วัดหลายแห่งกลายเป็นพุทธพาณิชย์ นั้น จะต้องดูในหลายองค์ประกอบ บางวัดทำเพื่อนำปัจจัยมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งมหาเถรสมาคม คงจะไม่ออกระเบียบอะไร เนื่องจากพระวินัยได้กำหนดให้พระ หรือวัดอยู่ในความพอดี พอเพียงอยู่แล้ว หากวัดใดทำเกินความพอดี ก็ควรที่ต้องปรับปรุงให้ประชาชนเห็น จึงขอฝากเตือนพระสงฆ์ และวัดทั่วประเทศ ให้ยึดพระธรรมวินัยเป็นตัวตั้ง ดำรงตนสำรวมอยู่ในสมณสารูป ส่วนจะมีการนำเรื่องนี้หารือในที่ประชุม มส.หรือไม่นั้น ต้องดูว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อได้หาแนวทางแก้ไข ในการสร้างศรัทธาให้ประชาชนต่อไป

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีที่มีภาพหลวงปู่เณร ฉัตติโก แห่งวัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เผยแพร่ทางสื่อมวลชนนั้น เป็นการหาข้อเท็จจริงผ่านสื่อ ตนเพียงแต่บอกว่าเป็นพระในพื้นที่ ซึ่ง พศ.ยืนยันว่ายังไม่ได้เจาะจงว่าเป็นพระรูปใด เพียงแต่พูดในภาพรวมว่าพระที่เคยพบเห็นเราได้ดำเนินการแจ้งไปแล้วก็ถือว่าจบไปแล้ว เป็นการลงโทษด้วยการว่ากล่าวตักเตือน และย้ำไม่ให้พระรูปอื่นทำการเช่นนี้อีก และคงไม่ประสานให้ทางเจ้าคณะผู้ปกครองให้ว่ากล่าวตักเตือนอีก เพราะได้ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว แต่ถ้าท่านยังทำผิดอีกจะต้องเป็นกระแสที่ทางเจ้าคณะผู้ปกครองต้องทำอะไรสักอย่าง ขณะนี้ตนไม่ได้สั่งการให้ตรวจสอบบุคคล แต่ให้ยืนยันมติของมหาเถรสมาคม (มส.) ยังกำชับให้พระทุกรูปต้องปฏิบัติตามระเบียบพระธรรมวินัย ส่วนกระแสข่าวที่ไประบุพระองค์นั้นองค์นี้ ทาง พศ. ไม่อยากจะกล่าวถึง ขอพูดในภาพรวมจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากถึงการถวายสิ่งของพระสงฆ์ให้อยู่ในความพอดี เพราะแทนที่จะดีเดี๋ยวจะกลับกลายเป็นการทำร้ายมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเกิดกระแสข่าวดังกล่าว ทางหลวงปู่เณรคำได้ติดต่อมาทาง พศ.หรือไม่ นายนพรัตน์ กล่าวว่า ไม่มี คงไม่ใช่เฉพาะหลวงปู่ หลวงอาท่านไหน องค์ไหนที่มีปัญหาขึ้นมา พอท่านทราบว่าผิดต้องรู้โดยอัตโนมัติว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะกระบวนการของสงฆ์จะมีฝ่ายปกครองดูแลตักเตือน หากยังฝ่าฝืนหรือละเลย อาจจะมีการลงโทษรุนแรงมากกว่านี้ก็ได้ และทางหลวงปู่เณรคำก็ไม่จำเป็นต้องออกมาแถลงเรื่องนี้ ตนถือว่าไม่ใช่ความผิดร้ายแรงถึงขนาดที่ท่านจะต้องออกมาเหมือนกับเป็นนักโทษของสังคม ส่วนกรณีที่พำนักของหลวงปู่เณรคำที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ผมขอชี้แจงว่าขณะนี้ยอมรับว่ายังมีปัญหาเรื่องที่พักสงฆ์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเราจำเป็นต้องผ่อนผันก่อนเพราะว่าหากพระสร้างที่พักสงฆ์ ต่อไปท่านจะต้องมาขออนุญาตสร้างอย่างถูกต้อง และตั้งเป็นวัด เราน่าจะได้ศาสนสถานเพิ่มขึ้น ดังนั้น การที่มีพระสร้างที่พักสงฆ์ในพื้นที่ขึ้นก็เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้ปกครองจะต้องเป็นคนเข้มงวดเพราะมีระเบียบชัดเจนว่าหากพระไปอยู่ในที่ใด ระยะเวลาเท่าไหร่ จะต้องดำเนินการขออนุญาตให้ชัดเจน

เมื่อถามต่อว่า กรณีที่พักสงฆ์ยังไม่ได้รับการอนุญาต และไม่มีฐานะเป็นวัด หรือเป็นนิติบุคคล แต่กลับมีเรื่องพุทธพาณิชย์ หรือเรื่องเงินบริจาคที่ได้มาจำนวนมากจะตรวจสอบอย่างไร ผอ.พศ.กล่าวว่า ตามหลักการพระทุกรูปต้องมีสังกัด ท่านต้องมีใบสุทธิหรือบัตรประจำตัวพระ ต้องมีชื่อสังกัดวัดใดวัดหนึ่งอาจจะไม่ใช่วัดป่าขันติธรรม แต่อาจกำลังอยู่ระหว่างขออนุญาตจัดตั้งวัดป่าขันติธรรม เพราะฉะนั้นหลักฐานความเป็นมา ที่มาขอรายได้จะต้องตรวจสอบได้ การเป็นพระเวลาได้อะไรมาขณะที่เป็นพระจะต้องมีหลักฐานชัดเจน เพราะผู้ถวายอาจจะถวายให้แก่ตัวบุคคลหรือทางวัด ดังนั้น ท่านจะหลบเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว อย่างกรณีหลวงปูเณรคำก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ตอนนี้ได้แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ศรีสะเกษ ประสานกับเจ้าคณะผู้ปกครองตรวจสอบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสถานภาพ สถานะการเงิน เพราะหากท่านไม่มี จะต้องชี้แจงว่าเพราะเหตุใด

“กรณีที่มีภาพพระสงฆ์รูปหนึ่งนอนกับผู้หญิงนั้น เรื่องนี้มอบหมายให้นายวิรอด ไชยพรรณา ผู้อำนวยการ พศจ.ศรีสะเกษ ไปรวบรวบข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งประสานกับเจ้าคณะปกครองให้ช่วยตรวจสอบด้วย ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าภาพดังกล่าวคือหลวงปู่รูปที่กำลังเป็นข่าว ต้องนำภาพที่มีการกล่าวหามาเปรียบเทียบและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาดูว่าใช่หรือไม่ ตอนนี้มีเพียงกระแสข่าวว่าเป็นภาพตัดต่อ ขณะที่บางคนก็บอกว่าเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตามหากเป็นภาพจริงก็ถือว่ามีความผิดถึงขั้นต้องสึกเพราะทำผิดพระธรรมวินัย ทั้งนี้เรื่องลักษณะนี้ต้องดำเนินการอย่างละเอียดอ่อน ซึ่งต้องปล่อยให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง” ผอ.พศ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบภายในวัดป่าขันติธรรม พบว่ามีสนาม ฮ.อยู่บริเวณถนนเข้าวัดเป็นรูปเครื่องหมาย H รวมทั้งทราบว่าหลวงปู่เณรคำจะนั่งเฮลิคอปเตอร์มาที่วัดป่าขันติธรรมเป็นประจำนั้น ปรากฏว่าขณะนี้ในเว็บไซต์ต่างๆ มีการนำภาพพระสงฆ์รูปหนึ่งลักษณะคล้ายหลวงปู่เณรคำลงมาจากเฮลิคอปเตอร์และมีประชาชนรอรับจำนวนหนึ่ง ซึ่งบริเวณประตูเฮลิคอปเตอร์พบภาพและชื่อหลวงปู่เณรคำติดอยู่ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น