แพทย์ชนบทสติหลุด! ตอนแรกจวก “หมอประดิษฐ” กลับกลอก บอกมติ ครม.ไม่พูดถึงการทำ P4P แบบสมัครใจ การเยียวยา ลั่นจุดม็อบหน้าบ้านนายกฯแน่ แต่หลังคุย “สุรนันทน์” กลับลำอีก ระบุขอดูท่าทีรัฐบาลอีก 2-3 วันเหมือนเคย ค่อยสรุปจุดม็อบหรือไม่
วันนี้ (11 มิ.ย.) นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร เห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนแบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายผสมผสานแบบตามผลปฏิบัติงาน (P4P : Pay for Performance) โดยให้ตั้งคณะทำงานศึกษา 1 ชุดให้ได้ข้อสรุปภายใน 60 วันก่อนให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั่วประเทศดำเนินการพร้อมกันในวันที่ 1 ต.ค. 2556 ว่า มติ ครม.มีความไม่ชัดเจนหลายเรื่อง และไม่มีการพูดถึงการทำ P4P แบบสมัครใจ รวมถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการทำและไม่ทำ P4P ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2556 จนถึงวันที่เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยให้ชดเชยเท่ากับส่วนต่างระหว่างอัตราตามเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับที่ 4 และ 6 ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายเงินในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน แสดงว่า นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กลับคำหรือไม่ ทำให้พวกตนหลายคนรู้สึกผิดหวัง และเตรียมประสานเข้าพบนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้ความชัดเจน หากถูกหักหลังก็พร้อมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมใจกันประท้วงหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี วันที่ 20 มิ.ย.ตามเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเฟซบุ๊กแฟนเพจชมรมแพทย์ชนบท ได้มีการโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจหลายประการ เนื่องจากมองว่า นพ.ประดิษฐ และรัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยาผลกระทบจากการทำและไม่ทำ P4P นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนให้แพทย์ชนบทมาร่วมกันชุมนุมประท้วงหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ และต้องขับไล่ นพ.ประดิษฐ ออกไปสถานเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการระบุด้วยว่า “บทเรียนของการโดนหักหลังครั้งนี้ เป็นเหมือนยาบำรุงกำลังที่ดีเยี่ยม เติมความคับแค้นให้มีความกล้า ประดิษฐคือคนเลวแท้ที่คบไม่ได้ ต้องไล่ออกไปสถานเดียว หากไม่สำเร็จไม่ยุติภารกิจ แพทย์พาณิชย์อย่างประดิษฐอยู่ชั่วคราว แต่แพทย์ชนบทอยู่ชั่วโคตร” และ “แท้จริงการเจรจาก็เป็นเพียงเกมทางการเมือง ถ่วงเวลาเพื่อทำลายขบวนการของพวกเรา แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ ในอีกด้านหนึ่งเราก็มีความชอบมากขึ้นถึงมากที่สุดในการการไล่ประดิษฐคนกลิ้งกลอกให้ออกไป เตรียมพลัง สะสมกำลัง ติดตามข่าวสาร รอการเป่านกหวีด ออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ ใหญ่กว่าทุกครั้งที่มี” เป็นต้น
นายระวัย ภู่ระกา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า จากมติ ครม.เห็นชัดว่ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนในข้อเรียกร้องที่เครือข่ายเพื่อความเป็นธรรมในระบบสุขภาพได้เรียกร้อง รวมทั้งปัญหา อภ.ก็ยังไม่ชัดเจนว่า จะมีการตรวจสอบกรณีความผิดปกติอีกครั้งหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายของ อภ. โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือ ดังนั้น ทางสหภาพ อภ.จะร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต รวมทั้งยังมีการประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาค มีความเห็นว่า หากกลุ่มหมอโรงพยาบาลชุมชนเดินหน้าประท้วง พวกตนก็จะร่วมชุมนุมด้วย
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า กระทรวงทำตามมติที่หารือกันเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. โดยมติออกมาเช่นไรก็ดำเนินการเช่นนั้น ส่วนการหารือในรายละเอียดจะมีการพูดคุยกันในคณะกรรมการศึกษา P4P ที่จะตั้งขึ้น โดยจะเชิญทุกวิชาชีพมาร่วมหารือ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดไปพูดคุยกับทุกโรงพยาบาลในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน P4P ด้วยอีกทางหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “ยืนยันความชอบธรรมที่จะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี” มีใจความตอนหนึ่งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ไม่มีการพิจารณาเนื้อหาส่วนที่เป็นผลสรุปของการเจรจาแต่อย่างใด ข้อสรุปทั้ง 10 ข้อไม่ได้รับการตอบสนองใดๆตามที่มีการตกลงกัน มีแต่เพียงคณะรัฐมนตรีรับทราบข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสาระความคิดส่วนตัวของ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ที่พูดโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อต่างๆตลอดเวลาที่ผ่านมาเท่านั้น
จากมติคณะรัฐมนตรีที่บิดเบือนดังกล่าว ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ จึงขอประณามการแสดงละครเจรจาลวงโลกในครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้วการเจรจาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ผู้แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก็เป็นเพียงเกมทางการเมือง อย่างไรก็ตามการที่ผู้แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หักหลังไม่นำผลสรุปการเจรจาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเลยนั้น ได้สร้างความชอบธรรมถึงระดับมากที่สุดในการการเคลื่อนเพื่อขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ออกไป โดยไม่มีการเจรจาใดๆ อีก และยืนยันความชอบธรรมที่จะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเข้าพบให้ข้อมูลกับนายกรัฐมนตรี โดยตรง
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการ รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจากนายสุรนันทน์ การเคลื่อนไหวของชมรมแพทย์ชนบทยังเหมือนเดิมทุกประการตามที่ได้ออกแถลงการณ์ไป ขอดูท่าทีรัฐบาลอีก 2-3 วันก่อนว่ายังคงมีความจริงใจอยู่หรือไม่ จึงจะตัดสินใจว่าจะไปชุมนุมหน้าบ้านนายกฯหรือไม่
วันนี้ (11 มิ.ย.) นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร เห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนแบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายผสมผสานแบบตามผลปฏิบัติงาน (P4P : Pay for Performance) โดยให้ตั้งคณะทำงานศึกษา 1 ชุดให้ได้ข้อสรุปภายใน 60 วันก่อนให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั่วประเทศดำเนินการพร้อมกันในวันที่ 1 ต.ค. 2556 ว่า มติ ครม.มีความไม่ชัดเจนหลายเรื่อง และไม่มีการพูดถึงการทำ P4P แบบสมัครใจ รวมถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการทำและไม่ทำ P4P ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2556 จนถึงวันที่เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยให้ชดเชยเท่ากับส่วนต่างระหว่างอัตราตามเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับที่ 4 และ 6 ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายเงินในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน แสดงว่า นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กลับคำหรือไม่ ทำให้พวกตนหลายคนรู้สึกผิดหวัง และเตรียมประสานเข้าพบนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้ความชัดเจน หากถูกหักหลังก็พร้อมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมใจกันประท้วงหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี วันที่ 20 มิ.ย.ตามเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเฟซบุ๊กแฟนเพจชมรมแพทย์ชนบท ได้มีการโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจหลายประการ เนื่องจากมองว่า นพ.ประดิษฐ และรัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องการเยียวยาผลกระทบจากการทำและไม่ทำ P4P นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนให้แพทย์ชนบทมาร่วมกันชุมนุมประท้วงหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ และต้องขับไล่ นพ.ประดิษฐ ออกไปสถานเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการระบุด้วยว่า “บทเรียนของการโดนหักหลังครั้งนี้ เป็นเหมือนยาบำรุงกำลังที่ดีเยี่ยม เติมความคับแค้นให้มีความกล้า ประดิษฐคือคนเลวแท้ที่คบไม่ได้ ต้องไล่ออกไปสถานเดียว หากไม่สำเร็จไม่ยุติภารกิจ แพทย์พาณิชย์อย่างประดิษฐอยู่ชั่วคราว แต่แพทย์ชนบทอยู่ชั่วโคตร” และ “แท้จริงการเจรจาก็เป็นเพียงเกมทางการเมือง ถ่วงเวลาเพื่อทำลายขบวนการของพวกเรา แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ ในอีกด้านหนึ่งเราก็มีความชอบมากขึ้นถึงมากที่สุดในการการไล่ประดิษฐคนกลิ้งกลอกให้ออกไป เตรียมพลัง สะสมกำลัง ติดตามข่าวสาร รอการเป่านกหวีด ออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ ใหญ่กว่าทุกครั้งที่มี” เป็นต้น
นายระวัย ภู่ระกา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า จากมติ ครม.เห็นชัดว่ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนในข้อเรียกร้องที่เครือข่ายเพื่อความเป็นธรรมในระบบสุขภาพได้เรียกร้อง รวมทั้งปัญหา อภ.ก็ยังไม่ชัดเจนว่า จะมีการตรวจสอบกรณีความผิดปกติอีกครั้งหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายของ อภ. โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือ ดังนั้น ทางสหภาพ อภ.จะร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต รวมทั้งยังมีการประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาค มีความเห็นว่า หากกลุ่มหมอโรงพยาบาลชุมชนเดินหน้าประท้วง พวกตนก็จะร่วมชุมนุมด้วย
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า กระทรวงทำตามมติที่หารือกันเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. โดยมติออกมาเช่นไรก็ดำเนินการเช่นนั้น ส่วนการหารือในรายละเอียดจะมีการพูดคุยกันในคณะกรรมการศึกษา P4P ที่จะตั้งขึ้น โดยจะเชิญทุกวิชาชีพมาร่วมหารือ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดไปพูดคุยกับทุกโรงพยาบาลในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน P4P ด้วยอีกทางหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “ยืนยันความชอบธรรมที่จะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี” มีใจความตอนหนึ่งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ไม่มีการพิจารณาเนื้อหาส่วนที่เป็นผลสรุปของการเจรจาแต่อย่างใด ข้อสรุปทั้ง 10 ข้อไม่ได้รับการตอบสนองใดๆตามที่มีการตกลงกัน มีแต่เพียงคณะรัฐมนตรีรับทราบข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสาระความคิดส่วนตัวของ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ที่พูดโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อต่างๆตลอดเวลาที่ผ่านมาเท่านั้น
จากมติคณะรัฐมนตรีที่บิดเบือนดังกล่าว ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ จึงขอประณามการแสดงละครเจรจาลวงโลกในครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้วการเจรจาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ผู้แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก็เป็นเพียงเกมทางการเมือง อย่างไรก็ตามการที่ผู้แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หักหลังไม่นำผลสรุปการเจรจาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเลยนั้น ได้สร้างความชอบธรรมถึงระดับมากที่สุดในการการเคลื่อนเพื่อขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ออกไป โดยไม่มีการเจรจาใดๆ อีก และยืนยันความชอบธรรมที่จะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเข้าพบให้ข้อมูลกับนายกรัฐมนตรี โดยตรง
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการ รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจากนายสุรนันทน์ การเคลื่อนไหวของชมรมแพทย์ชนบทยังเหมือนเดิมทุกประการตามที่ได้ออกแถลงการณ์ไป ขอดูท่าทีรัฐบาลอีก 2-3 วันก่อนว่ายังคงมีความจริงใจอยู่หรือไม่ จึงจะตัดสินใจว่าจะไปชุมนุมหน้าบ้านนายกฯหรือไม่
