รมว.พลังงาน เผยเบาใจวิกฤตพลังงานหลังพม่าหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติป้อนโรงไฟฟ้า บอกภาคประชาชนช่วยประหยัด อีกทั้งเปลี่ยนผ่านมาใช้ดีเซลไม่พบปัญหา คาดจ่ายก๊าซปกติ 15 เม.ย. ด้าน รมว.สาธารณสุข ยืนยันจ่ายเงินแพทย์แบบ “พีฟอร์พี” เป็นการเพิ่มค่าตอบให้แพทย์ชนบทช่วยรักษาให้มีรายได้เท่าเดิม ส่วนม็อบหมอชุมนุมอ้างเข้าใจผิด เชื่อไม่กระทบสมองไหลไปอยู่เอกชน
วันนี้ (6 เม.ย.) ในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) กรมประชาสัมพันธ์ ได้จัดรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยในช่วงแรก นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ได้กล่าวถึงกรณีที่ทางการพม่าหยุดส่งก๊าซธรรมชาติชั่วคราวเพื่อซ่อมแท่นขุดเจาะ เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งเกรงว่าจะกระทบต่อการจ่ายไฟฟ้า โดยกล่าวว่า สถานการณ์เบาใจมาก เพราะช่วงแรกคาดการณ์ว่าผู้ที่ใช้ไฟจะอยู่ที่ประมาณ 26,600 เมกะวัตต์ แต่พบว่าการใช้ไฟทั่วประเทศตกลงมาอยู่ที่ 24,955 เมกะวัตต์ ซึ่งต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ถึง 1,700 เมกะวัตต์ทั้งนี้ ช่วงแรกตลอดเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ประชาชนประหยัดไฟประมาณ 200 – 300 เมกะวัตต์ ซึ่งประชาชนพร้อมใจกันปลดปลั๊ก ปิดทีวี ปิดแอร์ ก็มีการเชื่อมโยงกัน ทำให้ได้ไฟจากภาคประชาชนมาถึง 1,700 เมกะวัตต์
ส่วนการเตรียมความพร้อม มีการสร้างศูนย์เชื่อมโยงกันทุกจุด ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าภูมิภาค รวมทั้ง ปตท.สผ บริษัท โทเทิล ที่ประเทศพม่า และสถานทูตไทยประจำประเทศพม่า เพื่อจะดูการซ่อมแซมของแหล่งแก๊สยานาดา ซึ่งเปลี่ยนจากการใช้ก๊าซธรรมชาติมาเป็นดีเซลตั้งแต่คืนวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่โรงไฟฟ้าที่ใช้แก๊สธรรมชาติของประเทศพม่าก็มาเปลี่ยนใช้ดีเซลส่วนหนึ่ง แต่บางแห่ง เช่น โรงไฟฟ้าพระนครใต้ จ.สมุทรปราการ ซึ่งใช้ก๊าซธรรมราชติอย่างเดียวก็ปิด ถึงกระนั้นสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าคงเท่าเดิม ซึ่งการซ่อมแซมจากวันที่ 5-14 เม.ย. คิดว่าคงเป็นไปตามกระบวนการ ไม่มีข้อผิดพลาดอะไรจะเปิดจ่ายก๊าซมายังประเทศไทยได้ในวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งคงจะไม่มีปัญหา เพราะเนื่องจากช่วงสงกรานต์ การใช้ไฟฟ้าบ้านเราจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 เมกะวัตต์ เท่านั้น
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในระยะยาวเราต้องสร้างความมั่นคงทางพลังงานด้วย เพื่อไม่เกิดวิกฤตไฟฟ้าเกิดขึ้น ดังนั้นการบริหารงานต้องมีการร่วมมือกับภาคประชาชน อุตสาหกรรม และรัฐบาล ในการผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อสำรองไฟไว้ใช้ แต่การสร้างโรงไฟฟ้าก็มีการต่อต้านจากหลายฝ่าย ซึ่งตนมองว่าหากต่อต้านอยู่บนพื้นฐานหลักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการทำลายสิ่งแวดล้อมเกินกว่าขีดจำกัด ที่เราจะรับได้ตนก็คิดว่าถูกต้อง แต่ถ้าต่อต้านอย่างเดียว ทั้งที่การสร้างโรงไฟฟ้าเขาทำถูกต้องตามหลักการทุกอย่าง ตนมองว่าเรื่องนี้คงต้องหันหน้าคุยกันจะดีกว่า เพราะถ้าเราไม่มีไฟฟ้าเราจะสู้นานาประเทศได้อย่างไร ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาและทำความเข้าใจ ทั้งนี้ในช่วงเดือนพ.ค.จะมีการประชุมเพื่อวางแผนและเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าวด้วย
อีกช่วงหนึ่ง นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ถึงกรณีการปรับค่าตอบแทนบุคคลากรทางการแพทย์ที่เป็นการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน หรือ พีฟอร์พี ว่า วัตถุประสงค์การจ่ายเงินให้กับบุคคลากรทางการแพทย์นั้นเพื่อต้องการลดความเหลื่อมล้ำเรื่องของรายได้ที่มีความแตกต่างกันมากระหว่างภาครัฐและเอกชน จึงทำให้มีการจ่ายเบี้ยเลี้ยงแบบเหมาจ่าย ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้จะมาจากกระทรวงสาธารณสุข และเงินบำรุง และที่ผ่านมาก็ไม่สม่ำเสมอได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งตนเห็นว่าเรื่องเหล่านี้จะต้องทำให้เกิดความมั่นคงและจะสามารถรั้งบุคคลากรให้อยู่ในภาครัฐได้ จึงมีการทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณมาทำในเรื่องของการให้เงินและเรื่องค่าตอบแทนตามภาระงาน
ทั้งนี้ ตนได้ให้นโยบายที่ชัดเจนว่า เงินในเรื่องนี้จะต้องไม่กระทบต่อเรื่องเงินค่าเหมาจ่ายเดิมที่เขาจะได้ โดยเฉพาะบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานชนบท ซึ่งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีมติว่า หากค่าตอบแทนต่ำลงอย่างมีนัยยะ ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องเข้าไปดูแลเรื่องนี้อย่างชัดเจน เพราะในบางพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในชนบทนั้น เงินพีฟอร์พีจะช่วยรักษาให้มีรายได้เท่าเดิม ส่วนการที่แพทย์มาชุมนุม เนื่องจากการปรับค่าตอบแทนแบบพีฟอร์พี จะเป็นการบีบให้ไปอยู่ในภาคเอกชน เพราะค่าตอบแทนลดลงนั้น เรื่องนี้มีมติ ครม. ที่ชัดเจนแล้วว่าต้องไม่ให้มีผลกระทบ ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า แพทย์จะมีการเร่งตรวจผู้ป่วยให้ได้จำนวนมากขึ้นนั้น ผู้ที่เป็นแพทย์มีจรรยาบรรณที่สูงส่งอยู่แล้ว ตนไม่คิดว่าตัวนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการทำงานแบบนั้น เพียงแต่ว่าทำให้มีผลตอบแทนมากขึ้นกับคนที่ทำงานมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหากมีการประกาศใช้แนวทางนี้ก็จะไม่มีการสมองไหลจากบุคคลากรทางการแพทย์ไปอยู่ภาคเอกชน ซึ่งจะไม่กระทบต่อกลุ่มแพทย์ เพราะเรามีหลักการชัดเจน กลุ่มแพทย์ที่อยู่ในชนบทนั้นจะต้องคงที่ไว้ที่ค่าตอบแทนต่างๆ แต่บวกเพิ่มค่าตอบแทนภาระงานเข้าไปอีก ซึ่งจะทำให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับการชี้แจงกับผู้ที่มาประท้วงในเรื่องนี้นั้น ตนคิดว่ากลุ่มที่มาชุมนุมอาจจะมีความเข้าใจผิด ว่าค่าตอบแทนจะลดลงนั้น ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้วว่า ไม่เป็นความจริง เพราะภาคชนบทจะมีการรันตีรายได้ขึ้นมา และเพื่อให้มีความรอบครอบยิ่งขึ้นตนได้มอบให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติร่วมพิจารณากฎเกณฑ์เหล่านี้และงบประมาณส่วนหนึ่งจะมาจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในการจ่ายค่าตอบแทนคงที่ อย่างไรก็ตามหากจะมีกระทบบ้างก็จะเป็นในส่วนของแพทย์กลุ่มเขตเมือง ซึ่งมีผลรายได้ลดลงและเงินพีฟอร์พีไม่สามารถเพิ่มรายได้ให้เท่ากันได้ เราก็จะมีมาตราการเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ทั้งนี้หากเปลี่ยนเป็นระบบใหม่จะไม่มีการค้างตอบแทนแบบที่เคยเป็น ซึ่งจะทำให้มีความต่อเนื่องในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทน ส่วนในที่ 9 เม.ย. ที่จะมีการชุมนุมนั้น ตนจะออกจะแถลงการณ์เพื่อทำความเข้าใจกับบุคคลากรทางการแพทย์ทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ที่จะมาชุมนุมให้มีความเข้าใจที่ชัดเจน ว่าเป็นการทำเพื่อรั้งบุคคลากรให้อยู่ในระบบการบริการของภาครัฐ ไม่ให้ลดน้อยลงมีการการันตีเรื่องรายได้ มีการทบทวนหลักการตลอดเวลา โดยระบบดังกล่าวเริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.แล้ว
ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.นี้ ว่า ตำรวจได้มีการเตรียมการมานานแล้ว โดยมีการบูรณาการร่วมกันจากหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย กรมทางหลวง กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งมีภารกิจหลักคือ ประชาชนต้องเดินทางท่องเที่ยวอย่างสะดวกปลอดภัย โดนวางกำลังทั้งตำรวจทางหลวง ตำรวจนครบาล และตำรวจภูธร เพื่อตั้งจุดตรวจ จุดพักรถ และระบายรถทั่วประเทศ ทั้งถนนสายหลักและสายรอง รวมถึงตั้งกองอำนวยการร่วมกันในการช่วยเหลือด้านปฐมพยาล เพื่อลดการสูญเสียให้มากที่สุด
ทั้งนี้ การเกิดอุบัติเหตุที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มักเกิดจากการดื่มสุรา ขณะขับขี่ การไม่สวมมวกกันน็อคสำหรับผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ดังนั้นผู้ขับขี่ ต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย เพราะการป้องกันอุบัติเหตุ ประชาชนต้องเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ ซึ่งผู้เดินทางต้องวางแผนล่วงหน้า พร้อมทั้งตรวจสอบพาหนะ ตรวจสอบสภาพรถให้สมบูรณ์ อีกทั้งผู้ขับขี่ต้องผักผ่อนเพียงพอ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ตนเชื่อว่าหากประชาชนปฏิบัติตามนี้อุบัติเหตุจะลดลง เช่นเดียวกับการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ประชาชนต้องปิดบ้านให้เรียบร้อยก่อนที่จะแจ้งไปยังสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อเข้าโครงการฝากบ้านกับตำรวจด้วย อย่างไรก็ตามในปีนี้เราไม่ได้ตั้งเป้าไว้ แต่ก็หวังว่าอุบัติเหตุและการเสียชีวิตในปีนี้ต้องให้น้อยที่สุด
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่มีการห้ามรถกระบะ นำถึงบรรจุน้ำไว้หลังรถและเล่นน้ำสงกรานต์นั้น ทางตำรวจไม่ได้ห้าม แต่เป็นการขอความร่วมมือเท่านั้น เพื่อลดอุบัติเหตุลง เพราะการเล่นน้ำสงกรานต์บนรถกระบะนั้น หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็จะมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามการดื่มสุราขณะขับขี่ มีโทษจำคุก และโทษปรับสูงมาก ดังนั้นต้องขอความร่วมมือผู้ขับขี่และผู้จำหน่ายสุรา ต้องขอความรู้มือ ต้องมีสำนึกทางสังคม ไม่จำหน่ายสุราแก่เด็กและเยาวชน รวมไปถึงสถานบันเทิงก็ขอให้ปิดตามเวลา ยืนยันว่าตำรวจพร้อมเต็มที่ในการดูแลประชาชน เพื่อให้ประชาชนเที่ยวสงกรานต์กันอย่างมีความสุข