กุมารแพทย์แนะ 8 เคล็ดลับสร้างครอบครัวอบอุ่น เน้นปรับตัว พูดจาดีต่อกัน อภัยให้กัน เข้าใจคนอื่น ชี้ช่วยครอบครัวมั่นคง มีภูมิต้านทาน
ศ.พญ.ชนิกา ตู้จินดา กุมารแพทย์และที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 4 สำนักงานกองทุนสนุบสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทำอย่างไรให้ครอบครัวอบอุ่น” ในเวที “สานงาน เสริมพลัง ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า หากครอบครัวมีความมั่นคง แข็งแรง จะเป็นเหมือนภูมิคุ้มกันที่สำคัญ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สมาชิกครอบครัวก็จะสามารถปรับตัวและอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ แต่ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมต่างๆ กำลังดึงคนออกจากบ้านมากขึ้น การจะทำให้ครอบครัวอบอุ่น ควรยึดหลักอย่างน้อย 8 หลัก ได้แก่ 1.ปรับตัวเข้าหากัน เรียนรู้ร่วมกันทั้งคู่ อย่าถืออัตตา 2.ปิยวาจา พูดกันด้วยวาจาที่ดีในครอบครัวเดียวกัน 3.ต้องเข้าใจคนอื่น 4.อภัยให้กัน 5.ใกล้ชิดลูก 6.มีเวลาให้ลูกอย่างมีคุณค่าและแบ่งเวลาให้คู่สมรสด้วย ทำให้สมาชิกในครอบครัวเกิดความรู้สึกกลับบ้านแล้วมีความสุข ครอบครัวจะต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด 7.พ่อแม่อย่าทุ่มเถียงกันต่อหน้าลูก และ 8.อย่าให้ลูกเกิดความรู้สึกอิจฉาพี่อิจฉาน้อง โดยพ่อแม่ต้องไม่ลำเอียง
“หากทำได้เช่นนี้รับรองครอบครัวอบอุ่นแน่นอน สำคัญสุดสมาชิกในครอบครัวต้องพูดคุยกันบ่อยๆ เพราะเป็นการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ในการรับฟังซึ่งกันและกัน ต้องเป็นการรับฟังอย่างเข้าใจ ไม่ใช่ฟังแล้วเถียง และไม่ใช่แค่พ่อแม่ต้องฟังกันเท่านั้น แต่ต้องฟังลูกด้วย” ศ.พญ.ชนิกา กล่าว
นางสุภาวดี หาญเมธี ประธานกลุ่มบริษัท รักลูก กล่าวในเวทีเดียวกันว่า จากการทำงานและรับฟังผู้ที่ทำงานด้านครอบครัว ทำให้สรุปได้ว่าการดำเนินการเรื่องครอบครัวเข้มแข็งต้องมีหลักคิด 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.ครอบครัวมีพื้นฐานมาจากความรัก 2.ครอบครัวมีเยื่อใยกันและกัน และ 3.ครอบครัวมีศักยภาพในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดของเกือบทุกเรื่อง จะต้องเริ่มจากครอบครัวส่วนอื่นเป็นองค์ประกอบที่เข้ามาร่วม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีอยู่โดยธรรมชาติในครอบครัวอยู่ที่ว่าแต่ละครอบครัวจะนำมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ แต่ละครอบครัวต้องยอมรับความจริง เพราะทุกครอบครัวล้วนมีปัญหาที่ต้องยอมรับ เช่น ลูกเป็นเกย์ แม่ป่วย โดยต้องยอมรับแบบไม่ต่อต้านและปกปิด เมื่อยอมรับความจริงได้จะทำให้มนุษย์คิดได้และมีความคิดและพลังเชิงบวก หากมองแต่แง่ลบจะไม่สามารถพัฒนาหรือแก้ปัญหาได้
นางสุภาวดี กล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องมือที่จะทำให้เกิดกระบวนการสร้างครอบครัวเข้มแข็ง ประกอบด้วย 1.นำคนมาแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกันภายใต้การเคารพประสบการณ์กันและกัน นอกจากจะเกิดการเรียนรู้แล้วยังส่งผลให้จุดประกายความคิด มีความคิดและมุมมองใหม่ๆด้วย 2.มีคนกลาง ที่เอื้อให้การสนทนาร่วมกันที่ดี 3.องค์ความรู้ ที่อาจจะเจาะจงลงไปในแต่ละประเด็น เช่น ครอบครัวที่มีลูกพิการ เป็นต้น 4.เครือข่าย ซึ่งจะทำให้การทำงานเรื่องครอบครัวทำได้ง่ายขึ้น และ 5.กิจกรรม เพราะการให้คนเรียนรู้จากอารมณ์ ความรู้สึกจะทำให้เกิดแรงบันดาบใจและซึมลึกเข้าสู่จิตใจได้มากกว่าการเรียนรู้จากข้อมูล
