แรงงานไทยมีเฮ “ลิเบีย” เริ่มเปิดรับแรงงานต่างชาติกลับเข้าทำงานในประเทศอีกครั้ง หลังการเมืองภายในเริ่มสงบ ขณะที่ บ.ผู้ประกอบการ ตั้งเป้าจะส่งแรงงานไปลิเบียทั้งหมดประมาณ 20,000 คน ภายใน 3 ปี โดยปัจจุบันมีแรงงานไทยอยู่ในลิเบียไม่ถึง 500 คน ยันแรงงานไทยเป็นที่ต้องการของลิเบีย
นายจักรกฤษณ์ สุวรรณสาร ประธานบริษัท จัดหางานเงินและทองพัฒนา จำกัด และประธานบริษัทในเครือซิลเวอร์แอนด์โกลด์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเมืองของลิเบียที่เริ่มสงบนิ่ง และรัฐบาลต้องเร่งก่อสร้างและชดเชยในสิ่งที่ประเทศเสียไปในช่วงส่งครามลิเบียให้กลับมาโดยเร็วทัดเทียมกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยบริษัทจัดหางานเงินและทองฯ จะเริ่มทยอยส่งคนงานกลับไปทำงานในลิเบียหลังจากส่งไปบ้างแล้วก่อนหน้านี้ โดยก่อนวันที่ 15 มิถุนายนนี้ คนงานจะต้องเดินทางกลับไปอีก 200 คน แล้วส่งต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 200 คน จนครบ 6,400 คน ตามจำนวนเดิมก่อนที่จะขนแรงงานหนีภัยสงครามกลับประเทศมา โดยบริษัทจะต้องส่งแรงงานกลับไปในระยะเวลา 1 ปี เพื่อไปสานต่อโครงการเก่า ส่วนโครงการใหม่ๆหรือที่จะต้องมีการบูรณะขึ้นมาใหม่ก็คงจะตามมาในเร็ววันเช่นกัน
นายจักรกฤษณ์ กล่าวอีกว่า ลิเบียไม่ได้มีปัญหาเรื่องงบประมาณในการฟื้นฟูประเทศ เพราะฉะนั้นการเร่งส่งแรงงานกลับไปจึงทำได้เลย และแรงงานที่จะทยอยส่งกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าจะทำได้คือ แรงงานรายเดิมที่ต้องเดินทางกลับประเทศเพราะภัยสงครามลิเบีย
“ฝากข่าวถึงแรงงานที่เคยเดินทางไปทำงานกับบริษัทจัดหางานเงินและทองฯ หากท่านใดที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับไปทำงานต่อ ให้มารายงานตัวกับบริษัทด่วน โดยเงินและทองฯพร้อมจะดำเนินการจัดส่งแรงงานได้เลยไม่ต้องรอเวลา ซึ่งบริษัทจะจัดส่งแรงงานกลุ่มนี้ไปก่อนเพื่อให้โอกาสคนที่เสียโอกาสเพราะภัยสงคราม ขณะเดียวกันการจัดส่งแรงงานเก่ากลับไปทำงานอีกครั้ง สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาในฝึกฝนแรงงาน”
นายจักรกฤษณ์ บอกอีกว่า จะส่งแรงงานไปลิเบียทั้งหมดประมาณ 20,000 คน ภายใน 3 ปี โดยปัจจุบันมีแรงงานไทยอยู่ในลิเบียไม่ถึง 500 คน โดยจ้างขั้นต่ำของแรงงานที่ผ่านการจัดหางานเงินและทองฯ คือ 550 เหรียญสหรัฐฯต่อเดือน ไม่รวมโอทีและสวัสดิการต่างๆ ซึ่งสูงกว่าอัตราของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
ประธานบริษัทจัดหางานเงินและทองฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทที่เป็นเจ้าของโครงการต่างๆ ที่หยุดไปในช่วงสงครามในลิเบีย ได้กลับมาเซ็นสัญญากับรัฐบาลแล้ว ซึ่งทุกบริษัทจะต้องเริ่มงานในเร็วๆ นี้ โดยแรงงานหลักที่ส่งกลับไป เป้าหมายคือ เพื่อฟื้นฟูประเทศ ทั้งที่อยู่อาศัย และระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โดยรัฐบาลลิเบียกำลังเร่งสร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามให้แล้วเสร็จ และล่าสุดรัฐบาลลิเบียได้เซ็นสัญญากับบริษัทรับเหมาที่ใหญ่ที่สุดของจีนเพื่อจะสร้างบ้าน 20,000 หลัง ที่เมืองเบงกาซี ในขณะที่บริษัทคู่ค้าของเงินและทองฯ ก็ได้โครงการสร้างบ้านที่เมืองทาจูรา 10,200 หลัง โดยแรงงานที่จะส่งออกไปครั้งนี้มีทุกระดับ ทั้งแรงงานก่อสร้างไปถึงธุรกิจบ่อน้ำมัน โดยแรงงานไทยเป็นที่ยอมรับของลิเบีย แม้ว่าราคาจะแพงกว่าชาติอื่น
ส่วนการเปิดงานกับโครงการใหม่ๆ นั้น ประธานบริษัทจัดหางานเงินและทองฯ กล่าวว่า เงินและทองฯ จะต้องประเมินบริษัทคู่ค้าก่อนว่ามีศักยภาพอยู่ในระดับไหน เพราะหากบริษัทจัดจ้างแรงงานมีปัญหาเรื่องเงินสะดุดก็จะส่งผลต่อทั้งแรงงานและผู้ส่งออก
“ช่วงสงครามเกิดสงครามลิเบีย เงินและทองฯ ได้ส่งแรงงานไปทำงานกว่า 6,400 คน และคนงานกลับโดยการเช่าเหมาลำเครื่องบินเมื่อเกิดสงคราม โดยแรงงานที่ขนกลับปลอดภัยทั้งหมด และมีไม่น้อยที่เป็นแรงงานจากบริษัทอื่นที่เงินและทองฯ ช่วยขนกลับด้วยในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน ถ้าเงินละทองฯเป็นผู้จัดส่งให้มั่นใจว่าทุกระบบปลอดภัยแน่นอน เพราะเราได้ไปตรวจสอบสถานะความเป็นอยู่ของแรงงานในลิบียแล้วว่าเป็นอย่างไร และมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่” นายจักรกฤษณ์กล่าว