สธ.เดินหน้าเครือข่ายบริการสุขภาพ เร่งแก้ปัญหา 10 เรื่องหลักใน 12 เขตบริการ ยันไม่มีการโอนงบขาลง สปสช.มาที่ สธ. ย้ำแค่ตั้งคณะทำงานร่วมกันให้ข้อมูล เพื่อกระจายงบอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กทม. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ. ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการนำเสนอของข้าราชการประจำเรื่องนโยบายปรับปรุงโครงสร้าง สธ.ซึ่งจัดให้มีแผนพัฒนาระบบเครือข่ายบริการสุขภาพ (Service Plan) ทั้ง 12 เขตบริการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการทำงาน ซึ่งมีการนำเสนอในหลากหลายประเด็น อาทิ การบริหารทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด การบริหารกำลังคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบบริหารจัดการยาและเวชภัณฑ์ เป็นต้น โดยจะนำปัญหาหลักๆ ประมาณ 10 เรื่อง เช่น อุบัติเหตุ หัวใจและหลอดเลือด โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรคมะเร็ง เป็นต้น มาแก้ปัญหาก่อน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาปรับปรุงแก้ไข
“อย่างเรื่องกำลังคนก็จะเน้นการบริหารทรัพยากรคน เพราะค่าใช้จ่ายด้านกำลังคนมีแนวโน้มโตขึ้น ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ 50 ของงบประมาณทั้งหมด และมีแนวโน้มว่าจะใช้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง ครม.มีมติให้ผลิตพยาบาลเพิ่มขึ้น ก็ต้องมีการบรรจุรองรับที่มากขึ้นด้วย ตรงนี้จะบริหารอย่างไรให้ใช้คนมีประสิทธิภาพมากที่สุด” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมยังมีการชี้เแจงทำความเข้าใจเรื่องการจัดการการกระจายงบขาลง ซึ่งเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวสำหรับหน่วยบริการต่างๆ ซึ่งเดิมทีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะกระจายงบประมาณให้สถานพยาบาลโดยตรง โดยขอยืนยันว่าไม่มีการโอนงบดังกล่าวจาก สปสช.มาที่ สธ.แต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการร่วมให้ข้อมูลการบริหารจัดการเท่านั้น ว่าจะกระจายงบอย่างไรให้มีประสิทธิภาพขึ้น ภายใต้การทำงานของคณะอนุกรรมการการเงินการคลัง ซึ่งมี ดร.คณิต แสงสุพรรณ เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม หาก สธ.ไม่สามารถดำเนินการตามตัวชี้วัดได้ สธ.ก็ต้องมีทางเลือกว่าจะให้ สปสช.ทำอย่างไรหรือเข้าไปดูแลอย่างไรด้วย
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กทม. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ. ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการนำเสนอของข้าราชการประจำเรื่องนโยบายปรับปรุงโครงสร้าง สธ.ซึ่งจัดให้มีแผนพัฒนาระบบเครือข่ายบริการสุขภาพ (Service Plan) ทั้ง 12 เขตบริการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการทำงาน ซึ่งมีการนำเสนอในหลากหลายประเด็น อาทิ การบริหารทรัพยากรร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด การบริหารกำลังคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบบริหารจัดการยาและเวชภัณฑ์ เป็นต้น โดยจะนำปัญหาหลักๆ ประมาณ 10 เรื่อง เช่น อุบัติเหตุ หัวใจและหลอดเลือด โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรคมะเร็ง เป็นต้น มาแก้ปัญหาก่อน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาปรับปรุงแก้ไข
“อย่างเรื่องกำลังคนก็จะเน้นการบริหารทรัพยากรคน เพราะค่าใช้จ่ายด้านกำลังคนมีแนวโน้มโตขึ้น ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ 50 ของงบประมาณทั้งหมด และมีแนวโน้มว่าจะใช้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง ครม.มีมติให้ผลิตพยาบาลเพิ่มขึ้น ก็ต้องมีการบรรจุรองรับที่มากขึ้นด้วย ตรงนี้จะบริหารอย่างไรให้ใช้คนมีประสิทธิภาพมากที่สุด” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมยังมีการชี้เแจงทำความเข้าใจเรื่องการจัดการการกระจายงบขาลง ซึ่งเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวสำหรับหน่วยบริการต่างๆ ซึ่งเดิมทีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะกระจายงบประมาณให้สถานพยาบาลโดยตรง โดยขอยืนยันว่าไม่มีการโอนงบดังกล่าวจาก สปสช.มาที่ สธ.แต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการร่วมให้ข้อมูลการบริหารจัดการเท่านั้น ว่าจะกระจายงบอย่างไรให้มีประสิทธิภาพขึ้น ภายใต้การทำงานของคณะอนุกรรมการการเงินการคลัง ซึ่งมี ดร.คณิต แสงสุพรรณ เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม หาก สธ.ไม่สามารถดำเนินการตามตัวชี้วัดได้ สธ.ก็ต้องมีทางเลือกว่าจะให้ สปสช.ทำอย่างไรหรือเข้าไปดูแลอย่างไรด้วย
