เดือด! สหภาพฯจี้บอร์ด อภ.ลาออกยกชุด เหตุไม่ปกป้ององค์กร

สหภาพฯ อภ.ทนไม่ไหว! บอร์ด อภ.ไม่ยอมปกป้องภาพลักษณ์องค์กร หลังถูกกล่าวหารายวันจนประชาชนเข้าใจผิด จี้ให้ลาออกยกชุดรวมถึง “หมอวิทิต” ด้วย หากดื้อด้านไม่ออกจะมีมาตรการต่อไป



วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่บริเวณลานหน้าองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ถ.พระราม 6 นายระวัย ภู่ผะกา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างการชุมนุมของสหภาพฯประมาณ 150 คน เพื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กู้ภาพลักษณ์คืนให้กับ อภ.หลังจากเรื่องต่างๆ ที่ปรากฏต่อสาธารณชนในขณะนี้สร้างความเสียหายให้กับ อภ.อย่างมาก เช่น การปนเปื้อนวัตถุดิบผลิตยาพาราเซตามอล การก่อสร้างโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ/ไข้หวัดนกล่าช้า วัตถุดิบผลิตยาบางชนิดใกล้หมดอายุ เป็นต้น ว่า ที่ผ่านมาสหภาพฯ เคยเรียกร้องให้ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานบอร์ด อภ. ทำหน้าที่ปกป้องภาพลักษณ์ อภ.ด้วยการแจ้งความดำเนินคดีอาญาและเรียกร้องความเสียหายทางแพ่งกับผู้ที่ทำให้ อภ.ได้รับความเสียหาย แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น โดยประธานบอร์ด อภ.แจ้งต่อกรรมการสหภาพฯว่า หลักฐานที่มีอยู่ซึ่งเป็นคำให้สัมภาษณ์ในสื่อมวลชนยังไม่ชัดเจนครบถ้วนสมบูรณ์พอที่จะฟ้องร้องตามที่สหภาพฯเรียกร้องได้ การชุมนุมในวันนี้ สหภาพฯจึงมีมติเรียกร้องให้บอร์ด อภ.ลาออกทั้งคณะ ตั้งแต่ประธานบอร์ด คณะกรรมการ รวมถึงเลขานุการบอร์ด คือ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ.ด้วย เพราะถือว่าละเว้นหน้าที่ในการปกป้องภาพลักษณ์ อภ.หากไม่ลาออกจะมีการพิจารณามาตรการต่อไป

“สิ่งที่ต้องการคือให้บอร์ด อภ.ทำหน้าที่ในการปกป้องภาพลักษณ์ของ อภ.ที่สูญเสียไป จนทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิด ในเมื่อไม่สามารถฟ้องร้องผู้ที่กล่าวร้าย อภ.ได้ ประธานบอร์ดก็ควรให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเพื่อยืนยันว่า กระบวนการผลิตยาของ อภ.มีมาตรฐานและคุณภาพ ข่าวเรื่องการปนเปื้อนของวัตถุดิบก็ไม่มีการนำมาใช้ผลิตยา ตรงนี้จะช่วยลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายใน อภ.” ประธานสหภาพฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเรียกร้องให้ นพ.วิทิต แสดงความรับผิดชอบจากการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้มูลควาามผิดกรณีการจัดซื้อวัตถุดิบผลิตยาพาราฯหรือไม่ นายระวัย กล่าวว่า เดิมดีเอสไอระบุเหมือนกับว่ามีการฮั้ว แต่ผลที่ออกมากลับไม่ใช่จึงต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ความจริงแล้วควรส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบแต่แรกไม่ใช่ดีเอสไอ จนทำให้คนทั่วไปเกิดความเข้าใจว่า อภ.มีการทุจริตใหญ่หลวง เกิดความเสียหายต่อ อภ.ส่วนใครถ้าผิดก็ว่าไปตามกระบวนการ