หมอชนบทอุทธรณ์ปรับพื้นที่ รพ.ใหม่ 21 แห่ง จากโรงพยาบาลชุมชนเป็นโรงพยาบาลทั่วไป บอกเหตุผลยกระดับยังไม่ดีพอ จ่อร้องดีเอสไอสอบเครื่องตรวจน้ำตาล
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การอุทธรณ์ปรับเปลี่ยนพื้นที่โรงพยาบาลในระดับต่างๆ เพื่อรองรับกับการปรับค่าตอบแทนที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดำเนินการนั้น ทางโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ได้มีการยื่นอุทธรณ์ก่อนวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณี รพช.จำนวน 21 แห่งที่ถูกยกระดับเป็นโรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งไม่มีการรับประกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างไร เพราะงบประมาณก็ไม่ได้รับเพิ่ม และไม่ได้บอกกรอบเวลาว่าจะยกระดับเมื่อใด ที่สำคัญยังไม่มีเหตุผลที่ดีพอในการยกระดับ แม้จะอ้างว่ามีความเจริญ แต่ข้อเท็จจริงโรงพยาบาลเหล่านี้มีการพัฒนาตัวเอง แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เจริญ เพราะอยู่ห่างไกลตัวอำเภอเมืองร่วม 100 กิโลเมตร แบบนี้ถือว่าไม่ยุติธรรม จึงขออุทธรณ์ให้คงสภาพเป็นโรงพยาบาลชุมชนเหมือนเดิมดีกว่า
“นอกจากนี้ จะอุทธรณ์กรณี สธ.ปรับค่าตอบแทนที่มีการตัดลดสำหรับคนที่มีอายุงาน 21 ปี โดยตัดเงินจากได้รับ 40,000 บาทต่อเดือนเหลือเพียง 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่ยุติธรรม เบื้องต้นมีผู้จะยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้กว่า 400 คนแล้ว ซึ่งจะนำไปสู่การฟ้องศาลปกครองต่อไป” นพ.อารักษ์ กล่าวและว่า เห็นได้ชัดว่า รมว.สาธารณสุข ได้สร้างความวุ่นวาย และไม่ชอบธรรมกับเรื่องนี้ ทั้งที่กระทรวงยังมีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลกรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพาสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มูลค่า 147 ล้านบาท ซึ่งชมรมแพทย์ชนบทจะเข้ายื่นเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในวันที่ 9 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จากนั้นจะเข้ายื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อตรวจสอบการทำงานของ รมว.สาธารณสุข ว่าชอบธรรมหรือไม่ด้วย
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การอุทธรณ์ปรับเปลี่ยนพื้นที่โรงพยาบาลในระดับต่างๆ เพื่อรองรับกับการปรับค่าตอบแทนที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดำเนินการนั้น ทางโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ได้มีการยื่นอุทธรณ์ก่อนวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณี รพช.จำนวน 21 แห่งที่ถูกยกระดับเป็นโรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งไม่มีการรับประกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างไร เพราะงบประมาณก็ไม่ได้รับเพิ่ม และไม่ได้บอกกรอบเวลาว่าจะยกระดับเมื่อใด ที่สำคัญยังไม่มีเหตุผลที่ดีพอในการยกระดับ แม้จะอ้างว่ามีความเจริญ แต่ข้อเท็จจริงโรงพยาบาลเหล่านี้มีการพัฒนาตัวเอง แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เจริญ เพราะอยู่ห่างไกลตัวอำเภอเมืองร่วม 100 กิโลเมตร แบบนี้ถือว่าไม่ยุติธรรม จึงขออุทธรณ์ให้คงสภาพเป็นโรงพยาบาลชุมชนเหมือนเดิมดีกว่า
“นอกจากนี้ จะอุทธรณ์กรณี สธ.ปรับค่าตอบแทนที่มีการตัดลดสำหรับคนที่มีอายุงาน 21 ปี โดยตัดเงินจากได้รับ 40,000 บาทต่อเดือนเหลือเพียง 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่ยุติธรรม เบื้องต้นมีผู้จะยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้กว่า 400 คนแล้ว ซึ่งจะนำไปสู่การฟ้องศาลปกครองต่อไป” นพ.อารักษ์ กล่าวและว่า เห็นได้ชัดว่า รมว.สาธารณสุข ได้สร้างความวุ่นวาย และไม่ชอบธรรมกับเรื่องนี้ ทั้งที่กระทรวงยังมีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลกรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพาสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มูลค่า 147 ล้านบาท ซึ่งชมรมแพทย์ชนบทจะเข้ายื่นเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในวันที่ 9 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จากนั้นจะเข้ายื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อตรวจสอบการทำงานของ รมว.สาธารณสุข ว่าชอบธรรมหรือไม่ด้วย
