เครือข่ายผู้ป่วยฯพร้อม T-BAN ตบเท้ายื่นหนังสือกระทุ้ง สธ.เปิดปากแร่ใยหินส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างแท้จริง เสี่ยงมะเร็งปอด-เยื่อหุ้มปอด ด้านรองปลัด สธ.ย้ำต้องพิจารณาผลการศึกษาอย่างรอบด้าน ยันเอาผลประโยชน์ประชาชนและประเทศเป็นตัวตั้ง
วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กรมควบคุมโรค ในการประชุมคณะกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากแร่ใยหิน ซึ่งมี นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานในการประชุม ปรากฏว่ามีสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย ในสมัชชาคนจน และเครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) นำโดย นางสมบุญ สีคำดอกแค ประธานสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯ เดินทางมาเรียกร้องพร้อมยื่นหนังสือต่อ นพ.ชาญวิทย์ ให้ที่ประชุมมีความเห็นไปในทางที่จะทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน เพื่อปกป้องสุขภาพประชาชนอย่างจริงจัง
นางสมบุญ กล่าวว่า ทางกลุ่มมีความกังวลถึงผลการพิจารณาผลกระทบต่อสุขภาพจากแร่ใยหิน การมาเรียกร้องในครั้งนี้จึงต้องการให้ สธ.ยืนยันว่าแร่ใยหินเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน เพราะต่างประเทศกว่า 56 ประเทศล้วนประกาศห้ามใช้แล้ว ถือว่าเป็นข้อมูลจำนวนมากที่เพียงพอต่อการประกาศว่าแร่ใยหินนั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย ที่สำคัญตั้งแต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2554 ให้ยกเลิกการใช้แร่ใยหิน ปัจจุบันผ่านมา 2 ปีแล้ว ทางกลุ่มไม่อยากเห็นการประชุมพิจารณาของคณะกรรมการยืดเยื้อต่อไปอีก เพราะจะยิ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะคนงานจนๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับแร่ใยหินแล้วต้องเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ้มปอด ซึ่งจากการประเมินของนักวิชาการอาชีวอนามัย พบว่ามีผู้ป่วยถึงปีละ 1 แสนคน
“สธ.เป็นหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพโดยตรง จะบอกว่าแร่ใยหินไม่มีพิษมีภัยต่อประชาชนไม่ได้ เราต้องการให้ คณะทำงานชุดนี้พิจารณาผลกระทบสุขภาพจากแร่ใยหินด้วยการยืนอยู่บนหลักการและจริยธรรม” นางสมบุญ กล่าว
ทั้งนี้ นพ.ชาญวิทย์ ได้ออกมารับหนังสือจากสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯ พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถรับปากถึงผลการพิจารณาว่า แร่ใยหินมีผลกระทบต่อสุขภาพจริงหรือไม่ เพราะต้องมีการศึกษาให้รอบด้านก่อน ซึ่งคณะกรรมการจะทบทวนเอกสารและรายงานที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด และจะสรุปตามหลักฐานทางการแพทย์ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพประชาชนและประเทศไทย ซึ่งการพิจารณาในครั้งนี้จะนำผลการศึกษาจากประเทศต่างๆ ที่มีการแบนแร่ใยหินมาพิจารณาด้วยว่าแบนแร่ใยหินเพราะสาเหตุใด มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจริงหรือไม่ แต่จะให้บอกว่าแร่ใยหินมีผลกระทบต่อสุขภาพเลยโดยไม่ได้มีการพิจารณาก่อนคงไม่สามารถทำได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นพ.ชาญวิทย์ เปิดเผยว่า จากการพิจารณาข้อเท็จจริง รายงานสถานการณ์การเจ็บป่วยจากแร่ใยหินในต่างประเทศที่มีการยกเลิกการนำเข้าแล้วกว่า 50 ประเทศนั้น ยังไม่มีข้อยืนยันได้ว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ จึงมีมติให้นำข้อมูลที่ระบุได้ว่า แร่ใยหินส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนผู้บริโภคมาเพิ่มเติม และจะประชุมอีกครั้งภายใน 1 เดือน ให้ได้ข้อสรุปเชิงวิชาการถึงผลกระทบจากแร่ใยหินต่อสุขภาพ เพื่อเสนอความเห็นต่อ ครม.พิจารณายกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินต่อไป
