สธ.จัดไหว้ครูครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี พร้อมจับมือวัดโพธิ์ จัดงานสืบสานตำนานภูมิปัญญาไทย ชูการแพทย์แผนไทย ทั้งการไหว้ครู การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค หวังประชาชนใช้ยาสมุนไพรไทยมากขึ้น
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 8.30 น.ที่อาคารพิพิธภัณฑ์และศูนย์ฝึกอบรมด้านการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีไหว้ครูแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี โดยมีบุคลากรสาขาการแพทย์แผนไทยทุกประเภท และองค์กรเครือข่ายกว่า 300 คนเข้าร่วมงาน ว่า สธ.จะร่วมกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) จัดงาน “สืบสานตำนานภูมิปัญญาไทย มรดกไทย สู่สุขภาพไทยและสุขภาพโลก” ขึ้นที่บริเวณเขตพุทธาวาส วัดโพธิ์ ในวันที่ 24-28 เม.ย.นี้ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และสร้างกระแสการรับรู้ประโยชน์จากการแพทย์แผนไทย ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการใช้ยาไทย รวมถึงเป็นการสืบสานอนุรักษ์ การคุ้มครองภูมิปัญญาไทย และแสดงเอกลักษณ์ภูมิปัญญาของชาติแก่ชาวไทยและชาวโลก
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า งานนี้จะประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ดังนี้ 1.กิจกรรมสืบสานภูมิปัญญาไทยจากอดีตสู่ปัจจุบัน ม่งสู่อนาคต ประกอบด้วยพิธีการไหว้ครูแพทย์แผนไทยต้นแบบที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาดั้งเดิม โดยได้จัดทำเป็นคู่มือพิธีไหว้ครูแพทย์แผนไทยฉบับแรกของ สธ.และคู่มือฤๅษีดัดตน จำนวนอย่างละ 25,000 เล่ม และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพการแพทย์แผนไทย เพื่อเผยแพร่ให้กับประชาชน และ 2.กิจกรรมก้าวย่างการนำการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรสู่ประชาชน ซึ่งจัดที่บริเวณเขตพุทธวาส วัดโพธิ์ ระหว่างวันที่ 24-28 เม.ย.นี้ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย และส่งเสริมให้ประชาชนใช้ยาสมุนไพรมากขึ้น เพราะทุกวันนี้คนไทยใช้ยาแผนปัจจุบันถึงร้อยละ 70 ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ยังใช้ยาสมุนไพรไทยน้อยมากไม่ถึงร้อยละ 10
“ภายในงานมี 4 กิจกรรมใหญ่ ได้แก่ 1.นิทรรศการองค์ความรู้สาขาการแพทย์แผนไทย 4 ประเภท ในรูปของนิทรรศการที่มีชีวิต 2.การเสวนาวิชาการเรื่องสืบสานตำนานภูมิปัญญาท่าฤาษีดัดตน และตำนานแม่ซื้อ เชื่อมโยงการดูแลสุขภาพจากอดีตถึงปัจจุบันและอนาคต และ พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย 3.การจัดกิจกรรมรวมพลการออกกำลังกายด้วยท่าฤๅษีดัดตนจำนวน 2,556 คน เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ท่าฤาษีดัดตนป้องกันโรคที่เกิดจากพฤติกรรม และ 4.นิทรรศการการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยตามฤดูกาล ให้ความรู้ตำรับยาใช้กับโรคตามฤดูกาล กลุ่มเฉพาะโรค กลุ่มอายุ และประเภทเสริมสุขภาพ ชุดความรู้ตำรับยาสมุนไพร สำรับอาหารพื้นบ้านต้านโรคตามฤดูกาล” รมช.สาธารณสุข กล่าว
ด้านนพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า วัดโพธิ์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากเป็นที่รวมวิทยาการทุกด้าน ทั้งจิตรกรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม และประติมากรรม โดยเฉพาะการแพทย์แผนไทยครบวงจรที่จารึกอยู่บนศาลาราย ซึ่งบรรพบุรุษใช้ในการบำบัดรักษา ส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายครบถ้วนตามหลักและทฤษฎีทางการแพทย์เป็นแหล่งรวมความรู้ทั้งด้านเภสัชกรรมไทย เวชกรรมไทย การผดุงครรภ์ การนวดไทยและท่าฤๅษีดัดตน จารึกลงบนแผ่นหินอ่อนจำนวน 1,360 แผ่น มีการปั้นรูปฤๅษีดัดตนในท่าต่างๆ จำนวน 80 ท่า เพื่อใช้อธิบายประกอบตำรับตำรา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักยอมรับและโด่งดังไปทั่วโลก ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ประกาศรับรองจารึกวัดโพธิ์เป็นมรดกแห่งความทรงจำแห่งโลกในระดับนานาชาติ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2554
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 8.30 น.ที่อาคารพิพิธภัณฑ์และศูนย์ฝึกอบรมด้านการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีไหว้ครูแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี โดยมีบุคลากรสาขาการแพทย์แผนไทยทุกประเภท และองค์กรเครือข่ายกว่า 300 คนเข้าร่วมงาน ว่า สธ.จะร่วมกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) จัดงาน “สืบสานตำนานภูมิปัญญาไทย มรดกไทย สู่สุขภาพไทยและสุขภาพโลก” ขึ้นที่บริเวณเขตพุทธาวาส วัดโพธิ์ ในวันที่ 24-28 เม.ย.นี้ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และสร้างกระแสการรับรู้ประโยชน์จากการแพทย์แผนไทย ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการใช้ยาไทย รวมถึงเป็นการสืบสานอนุรักษ์ การคุ้มครองภูมิปัญญาไทย และแสดงเอกลักษณ์ภูมิปัญญาของชาติแก่ชาวไทยและชาวโลก
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า งานนี้จะประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ดังนี้ 1.กิจกรรมสืบสานภูมิปัญญาไทยจากอดีตสู่ปัจจุบัน ม่งสู่อนาคต ประกอบด้วยพิธีการไหว้ครูแพทย์แผนไทยต้นแบบที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาดั้งเดิม โดยได้จัดทำเป็นคู่มือพิธีไหว้ครูแพทย์แผนไทยฉบับแรกของ สธ.และคู่มือฤๅษีดัดตน จำนวนอย่างละ 25,000 เล่ม และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพการแพทย์แผนไทย เพื่อเผยแพร่ให้กับประชาชน และ 2.กิจกรรมก้าวย่างการนำการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรสู่ประชาชน ซึ่งจัดที่บริเวณเขตพุทธวาส วัดโพธิ์ ระหว่างวันที่ 24-28 เม.ย.นี้ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย และส่งเสริมให้ประชาชนใช้ยาสมุนไพรมากขึ้น เพราะทุกวันนี้คนไทยใช้ยาแผนปัจจุบันถึงร้อยละ 70 ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ยังใช้ยาสมุนไพรไทยน้อยมากไม่ถึงร้อยละ 10
“ภายในงานมี 4 กิจกรรมใหญ่ ได้แก่ 1.นิทรรศการองค์ความรู้สาขาการแพทย์แผนไทย 4 ประเภท ในรูปของนิทรรศการที่มีชีวิต 2.การเสวนาวิชาการเรื่องสืบสานตำนานภูมิปัญญาท่าฤาษีดัดตน และตำนานแม่ซื้อ เชื่อมโยงการดูแลสุขภาพจากอดีตถึงปัจจุบันและอนาคต และ พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย 3.การจัดกิจกรรมรวมพลการออกกำลังกายด้วยท่าฤๅษีดัดตนจำนวน 2,556 คน เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ท่าฤาษีดัดตนป้องกันโรคที่เกิดจากพฤติกรรม และ 4.นิทรรศการการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยตามฤดูกาล ให้ความรู้ตำรับยาใช้กับโรคตามฤดูกาล กลุ่มเฉพาะโรค กลุ่มอายุ และประเภทเสริมสุขภาพ ชุดความรู้ตำรับยาสมุนไพร สำรับอาหารพื้นบ้านต้านโรคตามฤดูกาล” รมช.สาธารณสุข กล่าว
ด้านนพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า วัดโพธิ์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากเป็นที่รวมวิทยาการทุกด้าน ทั้งจิตรกรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม และประติมากรรม โดยเฉพาะการแพทย์แผนไทยครบวงจรที่จารึกอยู่บนศาลาราย ซึ่งบรรพบุรุษใช้ในการบำบัดรักษา ส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายครบถ้วนตามหลักและทฤษฎีทางการแพทย์เป็นแหล่งรวมความรู้ทั้งด้านเภสัชกรรมไทย เวชกรรมไทย การผดุงครรภ์ การนวดไทยและท่าฤๅษีดัดตน จารึกลงบนแผ่นหินอ่อนจำนวน 1,360 แผ่น มีการปั้นรูปฤๅษีดัดตนในท่าต่างๆ จำนวน 80 ท่า เพื่อใช้อธิบายประกอบตำรับตำรา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักยอมรับและโด่งดังไปทั่วโลก ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ประกาศรับรองจารึกวัดโพธิ์เป็นมรดกแห่งความทรงจำแห่งโลกในระดับนานาชาติ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2554